เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. บีบีซีรายงานบทวิเคราะห์หลังจากสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหลังมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ที่มีการตั้งเป้าร่วมกันว่าจะลดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ซึ่งสหรัฐเป็นผู้ผลิตก๊าซคาร์บอนถึงร้อยละ 15 ของโลก
/ AFP PHOTO
ข้อแรก การถอนตัวของสหรัฐอาจส่งผลโดยตรงกับโลก
ท่าทีของสหรัฐที่มีขึ้นอาจส่งผลต่อถึงการทูตในอนาคต ซึ่งนายไมเคิล บรูน นักสิ่งแวดล้อมชาวสหรัฐกล่าวว่าการถอนตัวครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเป็นบทเรียนให้กับลูกหลานว่าผู้นำโลกได้ตีตัวออกห่างจากคำว่า ความเป็นจริงและจริยธรรม
ข้อสอง ความยุ่งยากของสหรัฐคือโอกาสของจีน
ข้อตกลงปารีสเป็นกุญแจสำคัญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน จากก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองประเทศเคยมีจุดร่วมที่มีนัยยะสำคัญในข้อตกลงชิ้นนี้
หลังจากสหรัฐถอนตัว กลายเป็นว่าจะมีตัวละครสำคัญที่มาขับเคลื่อนแทนสหรัฐ อย่างสหภาพยุโรป หรืออียู รวมไปถึงแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งส่งผลต่อด้านบวกต่อจีนกับบทบาททางการเมืองโลกในอนาคต
Advertisement
US President Donald Trump / AFP PHOTO
ข้อสาม ท่าทีของสหรัฐทำให้บรรดาผู้นำด้านเศรษฐกิจโลกต้องผิดหวัง
การออกมาแสดงท่าทีของผู้นำจากหลายบริษัทไม่ว่าจะเป็นบริษัทกูเกิ้ล แอปเปิล หรือกระทั่งบริษัทผลิตน้ำมันอย่างเอ็กซ์ซอน โมบิล ที่เตือนรัฐบาลว่าให้ยึดข้อตกลงปารีสไว้ ซึ่งนายเดร์เร่น วู๊ด ผู้บริหารของเอ็กซ์ซอนก็ยังเคยเขียนจดหมายส่วนตัวหาทรัมป์ว่าหากสหรัฐยังอยู่ในข้อตกลง สหรัฐก็จะมีจุดยืนที่ดีในการแข่งขันและการต่อรอง
ข้อสี่ ถ่านหินอาจจะกลับมาแบบแป้กๆ
หลังจากที่สหรัฐเคยหันหลังให้กับการใช้ถ่านหินมาระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานในบางพื้นที่ของสหรัฐ แต่ตัวเลขการจ้างงานในอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานจากถ่านหินมีตัวเลขเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของการจ้างงานในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ในสหรัฐกับการผลิตไฟฟ้าโดยถ่านหินนั้นมีราคาแพงกว่าการใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานแสงอาทิตย์
ข้อห้า ถึงสหรัฐออกจากข้อตกลง การปล่อยก๊าซคาร์บอนในสหรัฐก็จะลดลงอยู่ดี
เนื่องจากการผลิตพลังงานส่วนใหญ่ในสหรัฐได้รับผลจากการดำเนินนโยบายตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และการผลิตไฟฟ้าส่วนใมหญ่มาจากก๊าซธรรมมากกว่าถ่านหิน บวกกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเรื่อยๆและผู้ผลิตพลังงานชอบความง่ายในการใช้ก๊าซธรรมชาติสู่การประยุกต์กับการผลิตพลักงงานทดแทน
