กว่าครึ่งไม่แสดงอาการ! ผลตรวจไอซ์แลนด์ยันป่วยโควิดแพร่เชื้อไม่รู้ตัวอื้อ

กว่าครึ่งไม่แสดงอาการ! – วันที่ 2 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ตอกย้ำผลการวิจัยที่บ่งชี้ว่า ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการอาจเป็นผู้แพร่เชื้อหลัก

DeCODE บริษัทผู้รับผิดชอบการตรวจหาเชื้อดังกล่าวทางห้องปฏิบัติการในไอซ์แลนด์ เป็นบริษัทลูกของ Amgen บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชีวภาพของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มีผู้เข้ารับการตรวจแล้ว 17,900 คน คิดเป็นเกือบร้อยละ 5 ของประชากรทั้งหมด (360,000 คน)

DeCODE ระบุว่า ผลการตรวจที่เป็นบวกนั้นคิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่าร้อยละ 1 แต่ในจำนวนนี้กว่าครึ่ง ผู้ติดเชื้อกลับระบุว่า ไม่รู้สึกว่ามีอาการป่วยใดๆ สอดคล้องกับสมมติฐานของงานวิจัยล่าสุด ที่ระบุว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการน่าจะเป็นกลุ่มหลักในการแพร่เชื้อมากที่สุด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญตะวันตก มองว่า การตรวจหาผู้ติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการควบคุมการระบาด และทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเห็นขอบเขตการระบาดที่ชัดเจนได้ ซึ่งไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งในชาติที่ดำเนินการตรวจหาเป็นวงกว้างและรวดเร็ว

ด้านสำนักงานสาธารณสุขไอซ์แลนด์ ชี้แจงถึงการตัดสินใจไม่ใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” แบบในหลายชาติเอเชียและยุโรป ว่าการตรวจหา ติดตาม และคัดแยกผู้ติดเชื้อที่รวดเร็ว ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ทางการไอซ์แลนด์เพียงประกาศห้ามชุมนุมเกิน 100 คน

นายแพทย์ คารี สตีฟันส์สัน ผู้ก่อตั้ง DeCODE ระบุว่า ไอซ์แลนด์ น่าจะช่วยเป็นโมเดลให้นักระบาดวิทยาศึกษาการระบาดของไวรัสชนิดนี้ได้ แต่แสดงความไม่เห็นด้วยกับผู้ที่วิจารณ์ว่า เพราะไอซ์แลนด์มีประชากรน้อย และประเทศมีขนาดเล็กจึงประสบความสำเร็จ

“มันอยู่ที่ความพร้อมมากกว่า ชาติที่พัฒนาแล้วหลายประเทศมีบุคลากรที่มีคุณภาพพอที่จะผลักดันมาตรการแบบไอซ์แลนด์ออกมาได้ตั้งนานแล้วครับ แต่ปัญหาคือ พอเกิดโรคระบาดขึ้นมาจริงๆ พวกเขากลับทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวมากกว่า” นพ.สตีฟันส์สัน ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน