โควิด: ญี่ปุ่นติดเชื้อพุ่งอีก – วันที่ 6 เม.ย. บีบีซี และ เอ็นเอชเค รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายหลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในกรุงโตเกียวและหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่พบในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีถึง 148 คน ก่อให้เกิดแรงกดดันต่อรัฐบาลให้ยกระดับมาตรการควบคุมการระบาด
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวเกิดขึ้นหลังนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่ากรุงโตเกียว ขอความร่วมมือให้ชาวกรุงโตเกียวงดการเดินทางออกมานอกที่พักอาศัยที่ไม่จำเป็นในช่วงสุดสัปดาห์ และปฏิบัติงานจากที่บ้านหากสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นนั้นปกป้องเสรีภาพในการเดินทางของชาวญี่ปุ่นอย่างเข้มงวด และไม่เปิดทางให้รัฐบาลใช้อำนาจริดรอนสิทธิดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการสั่งห้าม ไปจนถึงการลงโทษ ซึ่งวิกฤตการระบาดที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นความท้าทายและบททดสอบที่สำคัญยิ่งระบบกฎหมายของญี่ปุ่นด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเข้าเงื่อนไขสองกรณี หนึ่ง โรคระบาดต้องถึงขั้นเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน และสอง เชื้อที่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะครอบคลุมเฉพาะบางพื้นที่ของญี่ปุ่นเท่านั้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 มากขึ้นต่อเนื่อง และทางการญี่ปุ่นจะหลีกเลี่ยงไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับหลายประเทศในขณะนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ มีอำนาจในการขอความร่วมมือประชาชนให้เก็บตัวในที่พักอาศัย และร้องขอให้บรรดาธุรกิจบริการต่างๆ ที่เป็นสถานที่ชุมนุมของผู้คนจำนวนมากระงับการให้บริการชั่วคราว และยังสามารถสั่งปิดโรงเรียน จำกัดการเข้าสถานที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า และโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่นจะสามารถจัดตั้งโรงพยาบาลชั่วคราวได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของที่ดินหรืออาคาร และสั่งให้บริษัทขนส่งขนส่งยาและเครื่องมือแพทย์ในกรณีเร่งด่วน และสามารถบังคับยึดยารักษาโรคได้ด้วย
