โควิด:ปักกิ่งตรึงเข้ม ใครเข้าเมืองหลวงต้องมีผลตรวจกรดนิวคลีอิก
โควิด:ปักกิ่งตรึงเข้ม – รอยเตอร์ รายงานวันที่ 11 เม.ย. ว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 เม.ย. 46 คน ในจำนวนนี้ 42 คนมาจากต่างประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 81,953 ราย ยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 3,339
ตัวเลขของจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำหลังการเปิดเมืองอู่ฮั่น และอีกหลายๆ เมือง เมื่อเทียบกับตัวเลขของสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้เสียชีวิตวันเดียวเกิน 2,000 ราย และยอดสะสมผู้ติดเชื้อทะลุ 5 แสนราย
นอกจากนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกทะลุ 1 แสนรายไปแล้ว และยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงเกือบ 1.7 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม จีนยังระมัดระวังอย่างยิ่งไม่ให้เกิดการระบาดเป็นคลื่นลูกที่สอง จากกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และกลุ่มคนติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มณฑลเฮย์หลงเจียงเพิ่มขึ้น เนื่องจากชาวจีนเดินทางกลับจากรัสเซียเข้ามา เช่นเดียวกับเขตปกครองพิเศษอินเนอร์มองโกเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเสาร์ที่ 11 เม.ย. 27 คน ทั้งหมดมาจากรัสเซีย ขณะที่มณฑลหูเป่ยที่ตั้งของเมืองอู่ฮั่น ต้นตอการระบาดไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันมาเป็นวันที่เจ็ดแล้ว
ด้านกรุงปักกิ่ง ซินหัวรายงานว่าเพิ่มมาตรการใหม่ หน่วยงานท้องถิ่นระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางมายังกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน และมีความจำเป็นต้องเข้าพักในโรงแรม จะต้องแสดงใบรับรองการตรวจกรดนิวคลีอิกทุกคน
โจวเว่ยหมิง เจ้าหน้าที่สำนักงานการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเทศบาลนครปักกิ่งกล่าวว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ว่าผู้ที่เดินทางมายังกรุงปักกิ่งและต้องเข้าพักในโรงแรม ควรมีใบรับรองสุขภาพที่ยืนยันว่าได้รับการตรวจกรดนิวคลีอิกภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน และมีผลตรวจเป็นลบ รวมถึงต้องแสดงรหัสสุขภาพ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผู้ที่ปลอดจากโรคโควิด-19
โรงแรมควรปฏิบัติตามกฎการป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างเคร่งครัด เช่น ตรวจใบรับรองสุขภาพของผู้เข้าพัก ตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนเข้าพัก ตรวจอุณหภูมิร่างกายผู้เข้าพักในตอนเช้าและตอนค่ำ รวมถึงจับตาดูสุขภาพของผู้เข้าพักอย่างใกล้ชิด
โจวระบุว่าทางการได้ออกมาตรการนี้ เนื่องจากกรุงปักกิ่งกำลังป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในท้องถิ่นซ้ำอีกครั้ง และเพื่อป้องกันผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างแดน
//////
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
โควิด:ทะลุแสนศพแล้ว ยอดตายขยับทั่วโลก สหรัฐ-อังกฤษ ปรับเพิ่มมาก