โวยรัสเซียบินกลับหัวใส่ เมดิเตอร์เรเนียนเดือด บินตรวจมะกันเจอรับน้อง
โวยรัสเซียบินกลับหัวใส่ – วันที่ 21 เม.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เครื่องบินตรวจการณ์ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาถูกเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียบินเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงระหว่างปฏิบัติภารกิจในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างให้รายละเอียดเหตุที่แตกต่างกัน
แถลงการณ์ของกองเรือที่ 6 ประจำภาคพื้นยุโรป-แอฟริกา ของสหรัฐ ระบุว่า เครื่องบินขับไล่รุ่น SU-35 ของรัสเซีย บินในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัยและขาดความเป็นมืออาชีพ ขณะเข้าประกบเครื่องบินลาดตระเวนรุ่น P-8A ของสหรัฐในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เหตุดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยกองเรือที่ 6 ของสหรัฐ โจมตีว่า การกระทำที่ไม่จำเป็นของนักบินเครื่อง SU-35 ไม่สอดคล้องกับข้อบังคับการบินสากล และมารยาทที่ดีของนักบิน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งตัวเองและลูกเรือของสหรัฐ
“แม้เครื่องของรัสเซียจะอยู่ในน่านฟ้าสากล การกระทำดังกล่าวถือว่าขาดความรับผิดชอบ ทางสหรัฐคาดหวังว่ารัสเซียจะปฏิบัติตามบรรทัดฐานสากล เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ” แถลงการณ์กองเรือที่ 6 ของสหรัฐ ระบุ
ด้านกองทัพรัสเซีย ระบุว่า ส่งเครื่องบินขับไล่รุ่นดังกล่าวขึ้นจากฐานทัพฮเมมีม ประเทศซีเรีย เพื่อตรวจสอบเป้าหมายไม่ทราบที่มากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขตที่ตั้งของกองทัพรัสเซียในซีเรีย
“หลังนักบินรัสเซียเข้าตรวจสอบรหัสที่ปีกหลังของเครื่องบินปริศนา ก็ทราบว่าสังกัดกองทัพเรือสหรัฐ จึงเข้าติดตาม ต่อมาเครื่องลำดังกล่าวของสหรัฐจึงเปลี่ยนทิศทางและบินห่างออกไปจากที่ตั้งของกองทัพรัสเซีย
ส่วนกองทัพเรือสหรัฐ แถลงว่า เครื่องของรัสเซียบินเข้าใส่เครื่องของสหรัฐด้วยลักษณะกลับหัวที่ความเร็วสูง เป็นการเข้าประกบที่ไม่ปลอดภัย เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยทางสหรัฐอยู่ระหว่างพูดคุยกับหน่วยงานของรัสเซีย โดยเชื่อว่าไม่ใช่เจตนา แต่เป็นการขาดการฝึกฝน
วันเดียวกัน พลเอกจอห์น ดับเบิ้ลยู. เจย์ เรย์มอนด์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการเหล่าอวกาศ และกองทัพอวกาศสหรัฐ หรือยูเอสเอสเอฟ ระบุว่า กองทัพรัสเซียทดสอบยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ถือเป็นสิ่งตอกย้ำถึงภัยคุกคามต่อโครงข่ายการสื่อสารของกองทัพสหรัฐ
