โควิด:สหรัฐติดเชื้อเกิน8แสนคน ตาย4.4หมื่น ปลดล็อกดาวน์เสียงแตก

โควิด:สหรัฐติดเชื้อเกิน8แสนคนซินหัว รายงานวันที่ 22 เม.ย. ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐอเมริกาสูงทะลุ 800,000 ราย มีผู้เสียชีวิตกว่า 44,000 ราย ในขณะที่ชาวอเมริกันเริ่มมีความเห็นต่างกันมากขึ้นในประเด็นที่ว่าจะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งเมื่อไรและอย่างไร

ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลในสหรัฐฯ รวมถึง 823,786 รายมีผู้เสียชีวิต 44,845 ราย ในเวลา 06.30 . ของวันพุธ อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์

President Donald Trump arrives to speak about the coronavirus in the James Brady Press Briefing Room of the White House, Tuesday, April 21, 2020, in Washington. (AP Photo/Alex Brandon)

รัฐนิวยอร์กยังคงได้รับผลกระทบหนักสุด โดยมีผู้ป่วย 257,125 รายเสียชีวิต 18,821 ราย ส่วนรัฐนิวเจอร์ซีย์ตามมาด้วยยอดติดเชื้อ 88,806 รายและเสียชีวิต 4,520 ราย ส่วนรัฐอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 30,000 ราย ได้แก่ แมสซาชูเซตส์ เพนซิลเวเนีย แคลิฟอร์เนีย มิชิแกน และอิลลินอยส์

หลังจากการแพร่ระบาดของโรคทำให้ภาวะเศรษฐกิจดิ่งตัวลง ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ เช่น เท็กซัส จอร์เจีย เซาธ์แคโรไลนา เทนเนสซี อิลลินอยส์ และหลุยเซียน่า ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะเริ่มต้นเปิดเศรษฐกิจใหม่และกลับมาดำเนินวิถีชีวิตตามปกติภายในรัฐของตน

Xinhua

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีการประท้วงต่อต้านการกักกันทั่วประเทศ ซึ่งผู้เข้าร่วมการประท้วงแย้งว่าคำสั่งให้กักตัวอยู่ที่บ้านซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสนั้นไม่มีความจำเป็น หรือดำเนินต่อเนื่องนานเกินไป

ความตึงเครียดในประเทศเห็นได้ชัดเจนจากวิดีโอหนึ่งที่กลายเป็นกระแส ซึ่งเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2 คนสวมชุดสครับและหน้ากากป้องกัน ตอบโต้การชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ (19 เม..) ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด

ฉากในวิดีโอนั้นค่อนข้างโดดเด่น และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2 คนยืนอยู่บนทางม้าลายในช่วงไฟแดง เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าเหตุใดจึงต้องใช้มาตรการปิดเมือง

Xinhua

รายงานที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 20 เม.. โดยศูนย์จริยศาสตร์เอ็ดมอนด์ เจ ซาฟรา (Edmond J. Safra Center for Ethics) แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่าสหรัฐฯ จะต้องทดสอบไวรัส 20 ล้านครั้งในแต่ละวันช่วงกลางฤดูร้อน เพื่อกลับมาเปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบอีกครั้งอย่างปลอดภัย

ผู้ว่าการรัฐบางคนตำหนิว่ารัฐบาลกลางไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่เพื่อช่วยให้รัฐต่างๆ สามารถเข้าถึงเวชภัณฑ์ได้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่ารัฐต่างๆ ควรดำเนินการทดสอบโรค ไม่ใช่รัฐบาลกลาง

แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวย้ำหลายครั้งว่านิวยอร์กไม่สามารถเปิดธุรกิจใหม่ได้จนกว่าจะมีการจัดตั้งระบบทดสอบโรค เพื่อตัดสินว่าใครปลอดภัยที่จะกลับไปทำงาน แต่หากปราศจากความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง รัฐต่างๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะขยับมาตรการ

มหานครนิวยอร์ก ติดโควิด30%

Xinhua

คูโอโมกล่าวในการบรรยายสรุปประจำวันเมื่อวันอังคารที่ 21 เม.. ว่านิวยอร์กจะกลับมาเปิดภาคธุรกิจอีกครั้งในอัตราที่แตกต่างกันไปตามพื้นฐานภูมิภาคที่อ้างอิงจากข้อมูลจริงและสถานการณ์ในภูมิภาคนั้น

เช่นเดียวกับบางรัฐที่จะเปิดทำงานก่อนรัฐอื่นๆ เนื่องจากพวกเขามีสถานการณ์กับโรคโควิด-19 ที่แตกต่างกันไป ทั้งประเทศก็เช่นเดียวกันคูโอโมกล่าว

สำหรับรัฐนิวแฮมป์เชียร์อาจใช้วิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไปในการผ่อนคลายคำสั่งให้กักตัวอยู่ที่บ้าน

นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่แค่เปิดหรือปิด เราพูดเสมอว่าสุขภาพของประชาชนต้องมาก่อน และต้องเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราจับตามอง เมื่อเราจะดำเนินการขั้นต่อไปคริส ซูนูนู ผู้ว่าการรัฐนิวแฮมป์เชียร์ กล่าวเมื่อบ่ายวันอังคารที่ 21 เม..

ด้าน ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม ระบุว่าบางมลรัฐเริ่มคลายข้อบังคับแล้ว และเตือนพวกเขาว่าการทำเช่นนั้นอาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ผมเตือนเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับเลือกตั้งเหล่านั้นว่าการรักษาระยะห่างทางสังคมได้ผลในการทำให้ตัวเลขเหล่านั้นเพิ่มขึ้นแค่พอประมาณ แต่หากเราถอนข้อบังคับเร็วเกินไป ตัวเลขเหล่านั้นจะพุ่งทะลุกรอบนิวซัมกล่าว

ส่วนนายแอนโธนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำของสหรัฐฯกระตุ้นให้รัฐต่างๆระมัดระวังในการเปิดเศรษฐกิจใหม่และเตือนว่าการเคลื่อนไหวเร็วเกินไปอาจส่งผลตรงกันข้าม

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริงจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าไวรัสจะอยู่ภายใต้การควบคุม

//////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ไม่เอาล็อกดาวน์! คนอเมริกันแห่ประท้วง จี้เปิดเศรษฐกิจ เมินโควิดระบาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน