โควิด: ตะลึงเอลซัลวาดอร์ – วันที่ 27 เม.ย. มิร์เรอร์ รายงานสภาพนักโทษของเอลซัลวาดอร์ ชาติในอเมริกากลาง ที่อยู่อย่างแออัดภายในเรือนจำ หลังประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ นายิบ บูเคเล ประกาศปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ ภายในเรือนจำทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงที่ประเทศล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 จากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ภาพถ่ายเผยนักโทษสวมหน้ากากอนามัยและเพียงกางเกงขาสั้น นั่งต่อแถว และหันหน้าไปทางเดียวกัน ระยะห่างจากศีรษะมีเพียงไม่กี่สิบเซนติเมตร

คำสั่งล็อกดาวน์ภายในเรือนจำมีขึ้นขณะที่เอลซัลาวดอร์เกิดคดีฆาตกรรมในช่วงล็อกดาวน์ประเทศจาก 0 คดี เพิ่มเป็น 22 คดี เพียงวันเดียว เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2562 นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีบูเคเลดำรงตำแหน่ง

ประธานาธิบดีบูเคเลกล่าวว่า บรรดาผู้นำกลุ่มอาชญากรจะถูกส่งไปห้องขังร่วมกัน เพื่อลดคดีฆาตกรรมที่พุ่งสูงในประเทศ หลังฉวยโอกาสตอนที่กองกำลังสาธารณะเกือบทั้งหมดของประเทศกำลังควบคุมการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีบูเคเลอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ “อำนาจสังหาร” ต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรต่างๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองประชากรของประเทศ และป้องกันตัวเองของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ตัวเลขล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา เอลซัลวาดอร์มีผู้ติดเชื้อ 298 คน เสียชีวิต 8 ราย จากจำนวนประชากร 6.4 ล้านคน

ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์เป็นชาติหนึ่งในอเมริกากลางที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์มีความเข้มงวดที่สุดมาตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. และผู้ฝ่าฝืนล็อกดาวน์จะถูกส่งไปเรือนจำ

องค์การสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ว่า ผู้ฝ่าฝืนไม่มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจากศาล แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญของเอลซัลวาดอร์จะมีคำสั่งปล่อยผู้ถูกควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมาย แต่ประธานาธิบดีบูเคเลยังสงวนอำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมประชาชนและส่งไปกักกันโรคได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน