หนีโควิดกลับบ้าน น่านฟ้าปิด 24วัยรุ่นหันลงเรือ ล่องข้ามทวีปเกินเดือน
หนีโควิดกลับบ้าน – ซีเอ็นเอ็น รายงานการเดินทางกลับบ้านของวัยรุ่นชาวเนเธอร์แลนด์ 24 คน ล่องเรือใบข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จากคิวบากลับเนเธอร์แลนด์ ขณะโรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก เหล่าเยาวชนใช้เวลาเดินทางถึง 5 สัปดาห์ กระทั่งถึงแดนกังหัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.
เดิมนักเรียนกลุ่มนี้ต้องได้นั่งเครื่องบินกลับบ้าน แต่ถูกยกเลิกเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คิวบาประกาศปิดน่านฟ้า เด็กๆ จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นการล่องเรือใบกลับบ้านแทน แม้ต้องใช้เวลานานต่างกันมาก
เรือใบไวลด์ สวอน ต่อขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือ ประมาณ 20 ปีมาแล้ว เพื่อจับปลาแฮร์ริงและเปลี่ยนมาเป็นเรือใบล่องทะเล ระหว่างปี 2551-2553
เหล่าเยาวชนฉลองกันยกใหญ่ เมื่อถึงท่าเรือเมืองฮาร์ลิงเกน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย.
ส่วนนักเรียนโครงการแลกเปลี่ยนและนักเรียนโครงการล่องเรือ มีอายุระหว่าง 14-17 ปี ใช้ชีวิตด้วยกันบนเรือ “ไวลด์ สวอน” ทำให้สนิทสนมกันดีเพราะต้องอยู่ด้วยกัน 5 สัปดาห์ ต่างคนต่างมาจากโรงเรียนคนละแห่ง จึงมีเรื่องพูดคุยกันมากมายถึงหลักสูตรการสอนที่ไม่เหมือนกัน
ด้านคริสตอฟ เมเยอร์ ผู้อำนวยการมาสเตอร์สกิป บริษัทจัดโครงการนี้ กล่าวว่าต้องตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อส่งเด็กๆ กลับบ้านด้วยการลองเรือ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าการอาศัยอยู่บนคาบสมุทรแคริบเบียนต่อไป
วัยรุ่น และครู 3 คน กับลูกเรือ 12 คน เดินทางเป็นระยะทาง 8,336 กิโลเมตร ทุกคนไม่ได้เตรียมตัวล่องเรือ จึงต้องหาซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น เสื้อผ้าที่อบอุ่น เสื้อสเวตเตอร์ กางเกงขายาว ก่อนลงเรือที่ประเทศเซนต์ลูเซีย เมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยมีแพทย์ตรวจร่างกายให้ทุกคนบนเรือก่อนออกเดินทาง
หลังจากอยู่กลางทะเลมาได้ 2 สัปดาห์ ยังไม่มีใครติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และเด็กๆ ติดต่อครอบครัวได้ผ่านทางอีเมล
เมื่อเดินเรือมาได้ครึ่งทาง เรือไวลด์ สวอน แวะเทียบท่าที่เกาะอาซอร์ส กลางมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อเติมเสบียง แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือ
โจนา วัย 16 ปี บรรยายภาพที่เห็นจากบนเรือว่า ทุกคนบนเกาะใส่หน้ากากอนามัย เป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโลก
เมื่อถึงจุดหมายปลายทางวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นักเรียนวัยรุ่นเหล่านี้ลงจากเรือโดยต้องรักษาระยะห่างคนละ 1 เมตรครึ่งตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งเมเยอร์กล่าวว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับเด็กๆ แม้รู้จักการรักษาระยะห่างทางสังคม แต่ประหลาดใจอยู่ดี เมื่อเห็นของจริงซึ่งแปลกแตกต่างไปจากบรรยากาศที่เคยใช้ชีวิตอยู่ก่อนออกเดินทาง
//////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ฌอง-ฌากส์ ซาวา: ชายฝรั่งเศสตั้งเป้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยการอาศัยถังยักษ์ลอยไปตามกระแสคลื่น
