สหรัฐจัดชุดใหญ่ให้จีน! จบโควิดเจอเช็คบิลแน่ ซัดแถมทั้งปม5จี-ฮ่องกง
สหรัฐจัดชุดใหญ่ให้จีน! – วันที่ 30 เม.ย. เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนส่อเค้ารุนแรง หลังทางการสหรัฐย้ำจะดำเนินการสอบสวนจีนในฐานะต้นเหตุต่อการสูญเสียชีวิตของพลเมืองอเมริกัน และความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของสหรัฐ จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19
นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวโจมตีทางการจีนอย่างรุนแรงในหลายประเด็น ตั้งแต่กรณีการจับกุมแนวร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง กรณีความเสี่ยงด้านความมั่นคงของสหรัฐต่อเทคโนโลยีของหัวเว่ย และความรับผิดชอบของจีนต่อกรณีการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
นายพอมเพโอ ระบุว่า จะให้สถานเอกอัครราชทูตทั่วโลกของสหรัฐสื่อสารกันผ่านอุปกรณ์ที่ปราศจากเทคโนโลยีทั้งหมดของหัวเว่ย และสหรัฐจะดำเนินการสอบสวนรัฐบาลจีนในฐานะผู้ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตของพลเมืองอเมริกันนับหมื่นๆ ราย รวมทั้งความเสียหายเหลือคณานับทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จบสิ้นลง
นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยังแสดงความกังวลต่อกรณีการจับกุมแนวร่วมม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง 15 คน เมื่อกลางเดือนเม.ย. ว่ากระทบกระเทือนถึงคำมั่นสัญญาที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยให้ไว้ว่าจะยึดมั่นในระบบ “หนึ่งประเทศ สองระบอบ”
“ความพยายามใดก็ตามของทางการจีนที่จะนำกฎหมายด้านความมั่นคงที่ล้าสมัยมาใช้ในฮ่องกง จะถือว่าไม่เป็นตามที่จีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ และจะกระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์ของสหรัฐในพื้นที่” พอมเพโอ ระบุ
ด้านนายเจมส์ กรีน นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ มองว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐพยายามกล่าวหาทางการจีนนั้นสามารถย้อนกลับมาที่ตัวของรัฐบาลสหรัฐเองได้เช่นกัน
นายกรีน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นนักการทูตพาณิชย์ของสหรัฐที่กรุงปักกิ่ง มองว่า รัฐบาลสหรัฐพยายามเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจไปจากความนิยมในตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังลดลง เป็นผลมาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวในการรับมือโรคโควิด-19
“ปีนี้เป็นเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ แต่เกมการเมืองที่กล่าวโทษกันไปมา กำลังบ่อนทำลายความร่วมมือกันทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์” นายกรีน ระบุ
นอกจากนี้ นายพอมเพโอ ยังหันไปโจมตีองค์การอนามัยโลก หรือฮู ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เคยตำหนิอย่างรุนแรงด้วย
“เราไม่ควรจะเชื่อว่าแค่องค์กรอะไรที่มีคำว่า อนามัย อยู่ในชื่อแล้ว จะทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เรากำหนดไว้เสมอไปนะครับ” พอมเพโอ ระบุ
