โควิด: รัฐนิวยอร์กเปิดตัวเลขเพิ่ม – เอพี รายงานว่า ทางการรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยก่อนหน้านี้ ตามบ้านพักคนชราและสถานดูแลผู้สูงอายุ อีกมากกว่า 1,700 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากบ้านพักคนชราของรัฐนิวยอร์กนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เพิ่มเป็นอย่างน้อย 4,813 ราย จากยอดผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กอย่างน้อย 25,124 ราย จากยอดผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์ก 321,192 คน

AP

จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด ที่ได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกจากทางการรัฐนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตที่เชื่อว่าตายด้วยไวรัสโคโรนาก่อนจะทราบผลการยืนยันที่ทดสอบจากห้องปฏิบัติการ ตอกย้ำการทำงานของทางการรัฐนิวยอร์กถึงวิธีการดูแลคนชรา ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด ในช่วงการระบาดใหญ่ของไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19

จำนวนผู้เสียชีวิตในบ้านพักคนชรายังไม่มีความชัดเจน แม้จะมีการเปิดเผยล่าสุดของทางการรัฐนิวยอร์ก เนื่องจากไม่มีรายชื่อผู้อยู่อาศัยตามบ้านพักคนชราที่ถูกเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลก่อนเสียชีวิต ส่วนรายชื่อบ้านพักคนชราประกอบด้วย 22 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์กและลองไอส์แลนด์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย

ส่วนบ้านพักคนชราที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สถาบันปาร์เกอร์ ยิวอิช ในเขตควีนส์ นครนิวยอร์ก 71 ราย และศูนย์อิซาเบลลา เจเรียทริก หนึ่งในบ้านพักคนชราขนาดใหญ่สุดในนครนิวยอร์กที่มี 705 เตียงนอน มีผู้เสียชีวิต 64 ราย จำนวนนี้ 21 ราย ยืนยันติดโควิด-19 อีก 43 ราย สันนิษฐานว่าติดโควิด-19

นอกจากนี้ บ้านพักทหารผ่านศึกหลายแห่งมีผู้ติดเชื้อหนักเช่นกัน เช่น บ้านพักทหารผ่านศึกที่ลองไอส์แลนด์ มีผู้เสียชีวิต 53 ราย จำนวนนี้ 48 ราย ยืนยันติดโควิด-19 อีก 5 คน สันนิษฐานว่าติดโควิด-19 ส่วนบ้านพักทหารผ่านศึกในเขตควีน มีรายงานผู้เสียชีวิต 33 ราย และอีกแห่งที่เขตเวสต์เชสเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 22 ราย

AP

กรณีดังกล่าวทำให้ นายแอนดรูว์ คูโอโอม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ถูกวิจารณ์ถึงการดูแลและสนับสนุนบ้านพักคนชรา แม้ว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่มีรายงานผู้ติดเชื้อไม่กี่ราย จะเตรียมการล่วงหน้าด้วยการคัดกรองผู้เข้าเยี่ยม ปรับเปลี่ยนเวลาและงดเข้าเยี่ยมบ้านพักคนชราและสถานดูแลผู้สูงอายุก็ตาม

กลุ่มผู้ดูแลผู้อาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชราเรียกร้องให้รัฐนิวยอร์กเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อตามบ้านพักคนชราด้วยความโปร่งใสมากกว่านี้ พร้อมวิจารณ์กฎหมายท้องถิ่นที่บังคับใช้เมื่อ 1 เม.ย. ให้เอกสิทธิคุ้มกันโรงพยาบาลและบ้านพักคนชราไม่ต้องรับผิดทางแพ่งและอาญาต่อการเสียชีวิตของผู้อยู่อาศัย และนโยบายที่ประกาศเมื่อ 25 มี.ค. จะไม่ปฏิเสธการรักษาผู้อยู่อาศัย ต่อเมื่อบ้านพักคนชรายืนยันหรือสงสัยว่า ผู้อยู่อาศัยคนนั้นติดโควิด-19 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กออกมาปกป้องนโยบายดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นใจว่า ผู้อยู่อาศัยตามบ้านพักคนชราจะไม่ถูกปล่อยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลหรือไม่ต้องไปอยู่ที่อื่น และเป็นไปตามแนวปฏิบัติแผนประกันสุขภาพ หรือเมดิแคร์ ของรัฐบาลกลาง ซึ่งระบุเพียงว่า บ้านพักคนชราสามารถรองรับการรักษาผู้อยู่อาศัยติดโควิด-19 ได้ตราบเท่าที่บ้านพักคนชราหลังนั้นสามารถปฏิบัติตามแนวปฏิบัติรัฐบาลกลางว่าด้วยการป้องกันการระบาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

มะกันผงะบ้านพักคนชราซุกศพอื้อ ติดโควิด 26 ศพ ผู้สูงวัยที่ยังอยู่อีกร้อยคนป่วยด้วย (คลิป)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน