ตั้งข้อหาครบ4ตำรวจ จับจอร์จฟลอยด์ถึงตาย อัยการแฉประวัติแต่ละคน
ตั้งข้อหาครบ4ตำรวจ – เอพี รายงานวันที่ 4 มิ.ย. ว่า อัยการรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา นายคีธ เอลลิสัน ตั้งข้อหากลุ่มนายตำรวจผู้ร่วมจับกุมนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวดำ วัย 46 ปี ด้วยความรุนแรงจนถึงแก่ความตาย ครบทั้ง 4 นายแล้ว เพื่อดำเนินคดีเอาผิดและคืนความยุติธรรมให้ผู้ตายและครอบครัว ตามที่มวลชนทั่วสหรัฐชุมนุมประท้วงการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ
บุคคลทั้งสี่ที่ถูกฟ้องถูกปลดจากราชการไปแล้ว แต่ไม่รอดพ้นความรับผิดชอบกับการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะนายดีเรก ชอวินที่ปรากฏอยู่ในคลิปบันทึกเหตุการณ์ ขณะใช้หัวเข่ากดคอนายฟลอยด์ ทั้งที่ถูกใส่กุญแจมือและไม่ขัดขืน พร้อมร้องว่า ผมหายใจไม่ออก
อัยการยืนข้อหาเดิมที่สั่งฟ้องนายชอวินไว้ ได้แก่ ฆาตกรรมระดับสาม หรือทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยผิดกฎหมาย และเพิ่มขึ้นมา คือฆาตกรรมโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน รวมแล้วหากถูกตัดสินผิด จะมีบทลงโทษสูงสุด จำคุก 40 ปี จากเดิม 25 ปี
ส่วนอีก 3 นาย ได้แก่ นายโธมัส เลน นายเจ. เคิง และนายทู เธา ถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนฆาตกรรม มีบทลงโทษสูงสุด จำคุก 40 ปีเช่นกัน
อัยการเอลลิสัน กล่าวว่า ชีวิตของเหยื่อมีค่า ดังนั้นจะต้องทวงความยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับแรงกดดันของสาธารณชน
ในเอกสารคำฟ้องของอัยการยังรวบรวมประวัติของผู้ต้องหาแต่ละคนอย่างละเอียด เช่น นายดีเรก ชอวิน อายุ 44 ปี เป็นตำรวจมานาน 19 ปี เดิมเป็นพ่อครัวของกองทัพสหรัฐ เคยไปประจำที่จอร์เจียและเยอรมนี ก่อนกลับมาสหรัฐ เข้าเป็นตำรวจ เคยถูกร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่มาแล้วถึง 17 ครั้ง และถูกกล่าวหาใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขณะจับกุมสตรีรายหนึ่ง ด้วยการกระชากลากตัวลงจากรถ เพียงเพราะหญิงรายนี้ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดไป 16 ก.ม.ต่อช.ม.
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่สะดุดหูสะดุดตาผู้คนคือนายชอวินเคยได้รับเหรียญกล้าหาญมา 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2549 อยู่ในหน่วยจับกุมที่ยิงใส่ผู้ต้องสงสัยเล็งปืนมาที่ตำรวจ ครั้งที่สองปี 2551 พังประตูห้องน้ำเข้าไปยิงผู้ต้องสงสัยที่พกปืนสั้นได้
อ่านข่าว : ภรรยาขอหย่าตร.ฆ่าจอร์จฟลอยด์ เงินไม่เอา แค่เลิกใช้นามสกุลสามี
นายโธมัส เลน อายุ 35 ปี เป็นตำรวจใหม่เมื่อธ.ค. 2562 เข้ารับราชการตอนอายุเยอะแล้ว อดีตเคยเป็นยามศูนย์กักกันผู้เยาว์และเคยเป็นอาสาสมัครทำงานช่วยผู้อพยพโซมาเลีย ไม่เคยถูกร้องเรียน
นายเคิง อายุ 26 ปี อายุน้อยสุดในกลุ่ม เพิ่งผ่านช่วงทดลองงานมาทำงานรักษากฎหมายเต็มตัว เริ่มจากการลาดตระเวนมหาวิทยาลัยมินเนโซตาที่ตนเองจบมาและห้างสรรพสินค้า
นายเบน ครัมป์ ทนายของครอบครัวนายฟลอยด์ เผยว่าการดำเนินคดีดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ายินดีในความขมขื่น และเปิดทางให้นำความยุติธรรมมาสู่ครอบครัวผู้ตาย สำหรับตนจะยังสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อยกระดับข้อกล่าวหาให้เป็นฆาตกรรมโดยเจตนา
ด้านผู้ประท้วงที่วอชิงตันและนิวยอร์กส่วนหนึ่งเห็นว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวยังไม่เพียงพอ สิ่งที่เรียกร้องคือการเปลี่ยนแปลงโดยระบบที่จะต้องไม่มีอคติและการเหยียดสีผิวในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
การประท้วงตามเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐ นับจากวันที่ 25 พ.ค. ที่นายฟลอยด์เสียชีวิต และบานปลายเป็นการจลาจลเผาทำลายอาคารร้านค้า ปล้นสะดม ฯลฯ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมแล้วมากกว่า 9,000 คน เสียชีวิตจากความรุนแรวอย่างน้อย 12 ราย
ส่วนผลการชันสูตรพลิกศพนายฟลอยด์ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐแถลงตามมาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ว่ามีผลตรวจโควิก-19 เป็นบวกนั้น ไม่มีผลต่อการดำเนินคดีตำรวจ เนื่องจากเป็นการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
/////