เผยชีวิตพ่อค้าแม่ขายยุคโควิด เลือดอาบหน้าวันที่อเมริกาเจอโรคระบาด

เผยชีวิตพ่อค้าแม่ขายยุคโควิด เลือดอาบหน้าวันที่อเมริกาเจอโรคระบาด

เผยชีวิตพ่อค้าแม่ขายยุคโควิด – วันที่ 8 มิ.ย. เอพีรายงานชะตากรรมบางส่วนของบรรดาผู้ประกอบการร้านค้าในสหรัฐอเมริกา ที่เผชิญกับความยากลำบากท่ามกลางสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ถ่ายทอดผ่านแม่ค้ารายหนึ่งที่รัฐแคลิฟอร์เนีย

นางซาแมนธา คลาร์ก เจ้าของร้านขายของใช้ทั่วไปที่เมืองโมเดสโต ซึ่งตัดสินใจเปิดบัญชีเฟซบุ๊ก “ชีวิตคนขายของยุคโควิด-19” (Retail Life During COVID-19) เพื่อเป็นช่องทางบอกเล่าประสบการณ์ของบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ระบุว่า ทำงานอาชีพนี้มา 17 ปี ไม่เคยคิดว่าจะถูกทำร้าย

นางคลาร์ก ระบุว่า ตนต้องอดทนกับความเกรี้ยวกราด และคำขู่ทำร้ายจากบรรดาลูกค้า ที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าร้านหากไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการชะลอการระบาดของทางการสหรัฐ

AP

“ดิฉันทำงานวงการนี้มากว่า 17 ปี ไม่เคยได้ยินเรื่องประเภทที่ว่ามีลูกค้าทำร้ายเจ้าของร้านมาก่อนเลยค่ะ” คลาร์ก ระบุถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ก็มองว่า อาจจะประมาทและรู้ตัวช้าเกินไป

“คือก่อนหน้านี้มันก็มีบ้างแหละค่ะ ลูกค้าที่เค้าเข้าร้านมาท่าทางอารมณ์หมดจอย แต่พวกเราก็ไม่เคยเจอประเภทที่มาลงกับเราอ่ะค่ะ” และว่า “แต่พอมายุคโควิดครองเมืองเนี่ยเจอลูกค้าอารมณ์บูดบ่อยมาก บางทีก็ติดต่อกันหลายคนเลย”

นางเรเชล มิเชลิน ประธานสมาคมผู้ประกอบการร้านค้ารัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ทางรัฐใช้ส่งผลให้ผู้คนทั่วไปเกิดความเครียดสะสมมานานหลายเดือนจนกระทั่งปรอทแตก ไม่ใช่แค่ที่แคลิฟอร์เนียอย่างเดียว แต่ทั่วประเทศ

AP

นางมิเชลิน ระบุว่า คนส่วนใหญ่ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี ออกอาการหงุดหงิดเกรี้ยวกราดกันไปหมด ยิ่งมีเรื่องการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ คนผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวจับกุมจนเสียชีวิตยิ่งประสาทเสียจนกลายเป็นการประท้วงลุกลามไปทั่ว บางพื้นที่กลายเป็นจลาจลไปก็มี

รายงานระบุว่า นางคลาร์กนำภาพใบหน้าอาบเลือดของตัวเองโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตค้าขายของตนผ่านโลกออนไลน์จนได้รับการแชร์ต่อหลายพันครั้งนำไปสู่การเปิดเพจใหม่ Retail Life During COVID-19 จนมีผู้ติดตามหลายพันคนในเวลาไม่กี่วัน

ผู้ที่เข้ามาเขียนข้อความนั้นมีทั้งให้กำลังใจ และผู้ประกอบการร้านค้าที่กำลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันเข้ามาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง อาทิ เจ้าของร้านที่สวมหน้ากากอนามัยถูกลูกค้าที่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยถ่มน้ำลายใส่ ที่เมืองริเวอร์ไซด์ รัฐเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีผู้นำรายงานข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร้านค้าถูกลูกค้ายิงเสียชีวิต เพราะไม่พอใจที่ถูกขอให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าไปในร้านค้าที่เมืองฟลินท์ รัฐมิชิแกน

นายเดวิด เฟรนช์ รองประธานอาวุโสของสหพันธ์ผู้ประกอบการร้านค้าแห่งชาติและรัฐสัมพันธ์ ระบุว่า ทางสหพันธ์ได้รับรายงานมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีเหตุลูกค้าทำร้ายเจ้าของร้านค้าและพนักงาน โดยเฉพาะจากความไม่พอใจเรื่องขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการภาครัฐ เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเองและผู้อื่น

นางคลาร์ก กล่าวเสริมว่า เรื่องที่ลูกค้าดูหงุดหงิดที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องขอให้สวมหน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่าง 1.8 เมตร รวมถึงการงดรับสินค้าที่ซื้อไปแล้วคืน โดยตนเคยถูกลูกค้าคนหนึ่งขู่จะเผาร้าน เพราะตนปฏิเสธรับสินค้าที่ซื้อไปแล้วคืนในช่วงโควิดครองเมือง

นางคลาร์กเล่าถึงเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายว่าเกิดขึ้นเมื่อ 6 พ.ค. ว่าตนออกไปรับฟังความไม่พอใจของลูกค้าหญิงผู้หนึ่งมี่กำลังเดือดดาลกรณีสินค้าที่สั่งจองไว้ถูกขายไปก่อนหน้าที่ลูกค้าจะเดินทางมาถึง โดยจากการสอบถามพนักงานชำระเงิน พบว่า สนทนากันทางโทรศัพท์กับลูกค้า และตกลงว่าจะเก็บสินค้าไว้ให้เป็นเวลา 30 นาที แต่ลูกค้ามาสาย 1 ชั่วโมง สินค้าจึงถูกขายไปแล้ว

“เธอแสดงวามเกรี้ยวกราดมาก หยิบสิ่งของในร้านปาไปทั่ว มีอยู่ชิ้นหนึ่งโดนรถเข็นเด็ก แต่ดินฉันไม่ทราบว่ามีเด็กหรือไม่ภายในเพราะมีผ้าปิดไว้หมด ดิฉันจึงพยายามขอให้เค้าออกไป เค้าก็หันมาชกดิฉันเข้าเต็มๆ เลยค่ะ” คลาร์ก ระบุ

AP

เจ้าของร้านรายนี้ เล่าต่อว่า เมื่อดิฉันตั้งสติได้ก็พบว่ามีเลือดไหลออกมา จึงวิ่งตามลูกค้าคนนี้ออกไปแล้วถ่ายภาพไว้ได้ พบว่าเป็นหญิงผิวดำสวมหน้ากากอนามัย และมีผ้าปิดทะเบียนรถยนต์ไว้ ก่อนจะรีบขับหนีไป จึงนำภาพดังกล่าวไปให้ตำรวจ และนั่งรถพยาบาลไปทำแผล

ด้านสำนักงานตำรวจเมืองโมเดสโต นำภาพดังกล่าวขึ้นสู่โลกออนไลน์เพื่อขอเบาะแส และอยู่ระหว่างการตามหาผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย ส่วนนางคลาร์กนั้น ระบุว่า จะประกอบอาชีพเดิมต่อไป เพราะรักอาชีพดังกล่าว