ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7 สถิติชี้เหยื่อผิวดำอื้อ

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7 – วันที่ 8 มิ.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ข้อมูลสถิติล่าสุดบ่งชี้ว่าสหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธประจำกายเพื่อยิง และวิสามัญคนร้ายมากที่สุดในกลุ่มชาติจี7 ในจำนวนนี้ เป็นคนผิวดำมากที่สุด

ข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานสถิติคดีความ หรือบีเจเอส ของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิต 1,348 ราย ที่อาจมีความเกี่ยวเนื่องจากการจับกุมของตำรวจระหว่างเดือนมิ.ย. 2558 ถึงเดือนมี.ค. 2559 เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตจากการจับกุมของตำรวจอเมริกันถึง 135 รายต่อเดือน (4 รายต่อวัน)

หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 13 ราย ส่วนที่ประเทศออสเตรเลียนั้นมี 21 ราย ถือเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลที่เผยให้เห็นความแตกต่างที่น่าตกใจอย่างมาก

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

แชมป์วิสามัญ

ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจสืบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ยังเผยให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐใช้อาวุธประจำกายยิงวิสามัญคนร้ายมากที่สุดในกลุ่มชาติจี7ด้วย โดยในปี 2561 พบว่า ตำรวจอเมริกันวิสามัญคนร้ายไปถึง 407 ราย

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

โดยตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าข้อมูลของสื่อบางสำนัก และบรรดาหน่วยงานสิทธิมนุษยชนที่ต่างโจมตีข้อมูลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องว่าต่ำกว่าข้อเท็จจริง อาทิ วอชิงตันโพสต์ นับได้ 1,004 ราย และกลุ่มติดตามความรุนแรงของตำรวจนับได้ถึง 1,099 ราย เมื่อปี 2562

นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ เคยระบุต่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสเมื่อปี 2558 ว่ากรณีความรุนแรงของตำรวจไม่สามารถนำมาถกเถียงกันอย่างจริงจังได้ เพราะหน่วยงานมีข้อมูลไม่ครบถ้วน แต่ซีเอ็นเอ็นมองว่า แค่เพียงข้อมูลที่ไม่ครบนั้นก็ต่างจากชาติอื่นมาก

อาทิ นิวซีแลนด์ และอังกฤษ ซึ่งตำรวจมักไม่พกปืนเป็นอาวุธประจำกาย ขณะที่แคนาดานั้นแม้ตำรวจพกปืนแต่ก็มีการยิงวิสามัญเพียง 461 ราย ระหว่างปี 2543 ถึง 2560

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

นอกจากนี้ ข้อมูลของเอฟบีไอ บ่งชี้ว่า ผู้ถูกจับกุมส่วนใหญ่นั้นมีสัญชาติอเมริกัน เช่นในปี 2561 มีผู้ถูกจับกุมถึง 10,310,960 คน เทียบได้กับการจับกุม 1 คน ในทุกๆ ประชากร 32 คน โดยชาวแอฟริกัน-อเมริกัน หรือคนผิวดำนั้นมีความถี่ของการเผชิญกับการจับกุมด้วยกำลังสูงกว่าผิวขาว

แนวโน้มใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อคนผิวดำสูง

ผลการศึกษาจากวารสาร American Journal of Health ตีพิมพ์เมื่อปี 2559 ยังพบว่าตำรวจมักใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการจับกุมชาวอเมริกันผิวดำบ่อยมากกว่าต่อคนผิวขาว และคนผิวดำมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนผิวขาวระหว่างการจับกุมเป็น 3 เท่า

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

 

ข้อมูลยังพบว่า ชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมนั้นมีจำนวนที่ถูกจำคุกมากกว่าชาติอื่นใดในโลก สอดคล้องกับการที่สหรัฐเป็นชาติที่มีเรือนจำมากที่สุดในโลกด้วย จากข้อมูลของ World Prison Brief กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

สหรัฐมีนักโทษมากที่สุดในโลก

รายงานระบุว่า มีมหานครใหญ่ในสหรัฐเพียง 4 แห่ง ที่มีประชากรรวมแล้วมากกว่านักโทษในเรือนจำ โดยปัจจุบันสหรัฐมีนักโทษกว่า 2.2 ล้านคน มากเสียยิ่งกว่าประชากรทั้งหมดในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองบอสตัน และไมอามีรวมกัน

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

หากถือว่ารัฐทั้ง 31 แห่งในสหรัฐเป็นประเทศ จะพบว่าทั้ง 31 มลรัฐนั้นมีอัตราการจับกุมและลงโทษมากกว่าชาติอื่นใดในโลก เช่น รัฐโอคลาโฮมา หลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี ทุกๆ ประชากร 1,000 คน จะมีนักโทษ 1 คน เมื่อปี 2561

เปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีอัตราการดำเนินคดีประชากรตัวเองสูงสุดรองจากสหรัฐในปีนั้น คือ เอล ซัลวาดอร์ อยู่ที่ 614 คน ต่อประชากร 100,000 คน

ตร.มะกันแชมป์วิสามัญกลุ่มจี7

นักโทษทั้งหมดในสหรัฐเป็นคนผิวดำมากถึงหนึ่งในสาม แม้สหรัฐจะมีประชากรคนผิวดำเพียงหนึ่งในแปดของประชากรทั้งหมด โดยแนวโน้มเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอังกฤษ และแคนาดา แต่ปริมาณไม่มากเท่าสหรัฐ

ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสาเหตุของความเดือดดาลของชาวอเมริกันที่ออกมาประท้วงทั่วประเทศต่อความรุนแรงของตำรวจ และการเลือกปฏิบัติต่อคนผิวดำ หลังเหตุจับกุมนายจอร์จ ฟลอยด์ คนผิวดำจนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของตำรวจผิวขาว 4 นาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน