โคคา-โคลา หยุดโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย 30 วัน ขีดเส้นล้าง “เฮตสปีช”

โคคา-โคลาบีบีซี รายงานว่า บริษัทโคคา-โคลา ยักษ์ใหญ่ของกิจการน้ำดำ ประกาศระงับการโฆษณาทางแพลตฟอร์ม โซเชียล มีเดีย เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป เพื่อให้แฟลตฟอร์มเหล่านี้กวาดล้างโพสต์สร้างความเกลียดชัง หรือ เฮตสปีช เป็นความเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ของโลก กดดัน เฟซบุ๊ก ด้วยวิธีบอยคอต จน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมาขานรับประเด็นนี้แล้ว

 

“ต้องไม่มีที่ยืนให้กับการเหยียดสีผิวเชื้อชาติในโลกนี้ และต้องไม่มีที่ยืนให้กับการเหยียดสีผิวเชื้อชาติในโซเชียลมีเดียด้วย” เจมส์ ควินซีย์ ซีอีโอของโคคา-โคลา กล่าว พร้อมเรียกร้องให้บริษัทโซเชียลมีเดีย มีความรับผิดชอบต่อสังคมและความโปร่งใสเพิ่มขึ้น

ด้านมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นายใหญ่ของเฟซบุ๊ก ประกาศที่จะติดตั้งระบบขึ้นคำเตือนโพสต์ที่เข้าข่ายเป็นเฮตสปีช พร้อมแบนโฆษณาสินค้าที่มีลักษณะนำเสนอเจาะจงว่ากลุ่มบุคคลที่มีสีผิว เชื้อชาติ วรรณะ ศาสนา เพศ หรือสถานะผู้ลี้ภัย เป็นอันตรายต่อผู้อื่น

(FILES) In this file photo Founder and CEO of US online social media and social networking service Facebook Mark Zuckerberg. (Photo by Kenzo TRIBOUILLARD / AFP)

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก โดนบริษัทผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ และแนวร่วม #StopHateforProfit บอยคอต ด้วยการระงับโฆษณาทางเฟซบุ๊ก ที่เดิมไม่แสดงท่าทีว่าจะจัดการอะไรกับโพสต์เฮตสปีชเหล่านี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า การบอยคอตดังกล่าวทำให้หุ้นเฟซบุ๊กร่วงไปถึงร้อยละ 8.3 เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย. คิดเป็นมูลค่าถึง 56,000 ล้านดอลลาร์ และสะเทือนทรัพย์สินของซักเคอร์เบิร์ก ให้หายไปถึง 7,200 ล้านดอลลาร์ จนทำให้นายแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ แห่งหลุยส์ วิตตอง ขยับแซงขึ้นมารั้งอันดับ 3 มหาเศรษฐีโลก แทนซักเคอร์เบิร์ก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน