เมื่อวันที่ 10 ต.ค. บีบีซีรายงานว่า บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ตโฟนรายใหญ่ของเกาหลีใต้ แถลงระงับการผลิตสมาร์ตโฟนกาแล็กซี โน้ต 7 ไว้ทั้งหมด หลังพิจารณาแล้วว่าความปลอดภัยของลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมแนะนำให้ลูกค้าที่มีสมาร์ตโฟน กาแล็กซี โน้ต 7 ปิดเครื่องและระงับการใช้งาน จนกว่าการตรวจสอบกรณีแบตเตอรี่มีไฟลุกไหม้จะแล้วเสร็จ คำแถลงดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงทันทีร้อยละ 8.0 ต่อเนื่องจากวันจันทร์ที่ดิ่งลงร้อยละ 1.5
“เพราะความปลอดภัยของลูกค้าเป็นความสำคัญอันดับต้นของเรา ซัมซุงขอให้พันธมิตรผู้ขนส่งและผู้ค้าปลีกหยุดขายและเปลี่ยนสินค้ากาแล็กซี โน้ต 7 ขณะที่เรายังสอบสวนอยู่” แถลงการณ์ระบุ
ซัมซุงเผชิญปัญหาซ้ำอีก หลังเมื่อเดือนกันยายนเรียกเก็บคืนเครื่องที่วางจำหน่ายล็อตแรกไป 2.5 ล้านเครื่อง แล้วส่งล็อตใหม่ให้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้เกิดกรณีที่เครื่องไหม้ซ้ำอีกในสหรัฐอเมริกา ทั้งในห้องนอนของชายที่เคนตักกี ซึ่งไม่ได้เสียบสายชาร์จ และบนเครื่องบินภายในประเทศที่เตรียมออกเดินทาง
เดฟ ลี ผู้สื่อข่าวด้านเทคโนโลยีของบีบีซี ประจำซานฟรานซิสโก รายงานวิเคราะห์ว่า ซัมซุงตกอยู่ในสถานการณ์ขายหน้าอีก เมื่อมีรายงานว่าสินค้าล็อตใหม่ไหม้ซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อสำหรับบริษัทผู้นำของโลก กรณีนี้ไม่ได้มีผลแต่กับรุ่นโน้ต 7 หากยังกระเทือนถึงความน่าเชื่อถือของซัมซุงโดยรวม
สำหรับปัญหาที่ยังคาใจอยู่สำหรับโน้ต 7 น่าจะยังคงเป็นที่แบตเตอรีลิเธียมที่ถูกบีบให้มีขนาดเล็กลง ชาร์จพลังงานได้เร็วขึ้น ขั้วไฟฟ้าบวกลบรั่วมาชนกันจนไฟฟ้าลัดวงจร
ส่วนประเด็นที่คนพูดถึงกันมากว่า โน้ต 7 มาเกิดปัญหาช่วงแอปเปิ้ลปล่อยไอโฟน 7 ออกมาไล่เลี่ยกัน มีผลอะไรหรือไม่ ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องราคาหุ้น ที่ซัมซุงได้รับผลกระทบ ในขณะที่ของแอปเปิ้ลราคาขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือด้วย
เอลเลียต เคย์ ประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา กล่าวสนับสนุนที่ซัมซุงหยุดการขนส่งสินค้าชุดนี้ไว้ก่อน ตามหลักที่เคารพต่อความปลอดภัยของลูกค้า