มหาบอมบ์เบรุต: ผู้เชี่ยวชาญต่างพยายามหาคำตอบของเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. คร่าชีวิตมากกว่า 110 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน สร้างความเสียหายมหาศาลเป็นมูลค่าราวแสนล้านบาท เมืองหลวงเลบานอนกลายเป็นเขตภัยพิบัติในสภาพราบเป็นหน้ากลอง นายมิเชล อาอุน ประธานาธิบดีเลบานอน แถลงว่า เหตุระเบิดทำให้ประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
REUTERS
วันที่ 5 ส.ค. สื่อรัสเซียอย่าง สปุตนิคเรดิโอ รายงานความคิดเห็นของ ดร.ยูริ ออร์ลอฟ ผู้เชี่ยวชาญอิสระ ปริญญาเอกสาขาเคมีของรัสเซีย ถึงคำอธิบายของปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้แอมโมเนียมไนเตรทเกิดระเบิด และคำถามที่ว่า สารเคมีตัวนี้ระเบิดด้วยตัวเองได้หรือไม่ แม้จะมีการจัดเก็บอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม
ดร.ออร์ลอฟกล่าวว่า แอมโมเนียมไนเตรทเป็นปุ๋ยที่ใช้กับแปลงเกษตร มีคุณสมบัติดูดความชื้นจากอากาศ แต่ด้วยลักษณะกายภาพจับตัวเป็นก้อนแน่น จึงต้องเก็บในถุงปิดผนึก
AP
“แอมโมเนียมไนเตรทไม่สามารถระเบิดด้วยตัวเองได้หากไม่มีปฏิกิริยาภายนอกจากสารประกอบอื่นๆ เพื่อจุดระเบิด แอมโมเนียมไนเตรทปกติแล้วนำมาทำวัตถุระเบิดเพื่อใช้ทำเหมืองแร่ซึ่งเป็นที่ทราบกันอย่างดี แต่ไม่สามารถระเบิดด้วยตัวเองได้ หากไม่มีคนทำ ประกายไฟยังไม่เพียงพอต่อการจุดระเบิด แต่ต้องใช้สารพิเศษเพิ่มเติม” ดร.ออร์ลอฟกล่าว
ดร.ออร์ลอฟชี้ด้วยว่า กลุ่มควันระเบิดที่ท่าเรือของกรุงเบรุตมีโอกาสเกิดจาก ปุ๋ยเคมี มากที่สุด เนื่องจากวัตถุระเบิดที่ใช้การทหารและอุตสาหกรรมไม่เกิดระเบิดเช่นนี้ และไม่เหมือนกับการระเบิดของดอกไม้ไฟ
AFP
ทำไมควันระเบิดเป็นสีชมพู
ดร.โอเล็ก เจลโตนอจโค ผู้เชี่ยวชาญการทหารอิสระ ปริญญาเอกสาขาเคมีของรัสเซีย อธิบายว่า ระเบิดกลางกรุงเบรุตมีลักษณะซับซ้อนและประกอบด้วยหลายขั้นตอน ควันสีชมพูอาจเกิดจากสารเคมีตัวอื่นที่อยู่ในคลังสินค้าติดกันถูกคลื่นระเบิดพัดขึ้นลอยไปในอากาศ นอกจากนี้ คลื่นระเบิดยังมีน้ำปริมาณมาก จึงเกิดการเปลี่ยนสีของสารแขวนลอยที่อยู่ในบนท้องฟ้าจากการเกิดระเบิด
ขณะที่ เอพี สำนักข่าวฟากฝั่งอเมริกา รายงานความคิดเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญว่า ดอกไม้ไฟ และ แอมโมเนียมไทเตรท น่าจะเป็นตัวจุดระเบิดกลางกรุงเบรุต เนื่องจากแอนโมเนียมไนเตรทไม่สามารถระเบิดเองได้ ต้องมีตัวจุดระเบิดอื่นด้วย คาดเป็นดอกไม้ไฟที่เก็บในคลังสินค้าท่าเรือเดียวกัน
นายโบอัซ ฮาโยอุน เจ้าของบริษัทสัญชาติอิสราเอล ทามาร์ กรุ๊ป ที่ทำงานใกล้ชิดรัฐบาลอิสราเอลด้านความปลอดภัยและออกใบรับรองวัตถุระเบิด อธิบายวิดีโอเหตุการณ์ช่วงแรกๆ ว่า ก่อนเกิดระเบิดขนาดใหญ่ จะเห็นประกายไฟและแสงไฟในควันที่ลอยมาจากเปลงไฟที่ไหม้อยู่ก่อน และได้ยินเสียงเหมือน ป๊อปคอร์น และ นกหวีด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของดอกไม้ไฟ ทั้งภาพและเสียงในวิดีโอ และความเปลี่ยนแปลงจากการเผาไหม้อย่างช้าๆ ไปสู่การระเบิดขนาดใหญ่
นายฮาโยอุนอธิบายอีกว่า ดอกไม้ไฟทั่วไปราคาถูกที่ทำจากจีนมักมีคุณภาพต่ำสามารถจุดติดได้ง่าย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน แตกต่างจากวัตถุระเบิดทางทหารที่ออกแบบมาปลอดภัยต่อการขนส่งเคลื่อนย้าย และเมื่อดอกไม้ไฟหลายร้อยตันเกิดระเบิดจึงสร้างแรงระเบิดมหาศาล กลายเป็นผลลัพธ์แบบที่เห็นอย่างเมืองหลวงเลบานอน
RIA NOVOSTI
สอดคล้องกับ เจฟฟรีย์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญขีปนาวุธ สถาบันระหว่างประเทศศึกษา มิดเดิลเบอรี่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ประเมินว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ประการแรก มีเปลวไฟก่อนระเบิด ไม่ใช่เป็นการถูกโจมตี และวิดีโอบางตัวเผยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญเรียกว่า “ป๊อปคอร์น” เนื่องจากเสียงระเบิดดัง ป๊อป หลายครั้ง
นอกจากนี้ เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่จะเห็นเปลวไฟเป็นตัวจุดระเบิด หากเกิดไฟไหม้ถัดจากวัตถุระเบิดอะไรสักอย่าง และไม่ได้เอาวัตถุระเบิดออกห่าง ส่วนเมฆสีขาวที่มาพร้อมกับระเบิดอาจเป็นเมฆที่มีความควบแน่น ซึ่งเกิดขึ้นปกติเมื่อเกิดระเบิดขนาดใหญ่ในอากาศที่มีความชื้น (ตอนเกิดเหตุอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส) และตามมาด้วยคลื่นระเบิดหลายระลอก ส่วนควันสีส้มที่ตามมาเกิดจากก๊าซพิษอย่างไนโตรเจนไดออกไซด์ที่จะออกมาหลังเกิดระเบิดสารเคมีพวกไนเตรท
ซิม แท็ก นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญอาวุธ บริษัทหน่วยข่าวกรองเอกชน สตาร์ตฟอร์ รัฐเท็กซัส อธิบายว่า ระเบิดกลางกรุงเบรุตมีอนุภาพเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นทีอย่างน้อย 2.2 ตัน
ก่อนหน้านี้ นายโมฮัมเหม็ด ฟาห์มี รัฐมนตรีกลาโหมเลบานอน ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องดอกไม้ไฟ ซึ่งเลบานอนมักใช้เฉลิมฉลองตามโอกาสทางศาสนาและงานแต่งงาน แต่กล่าวว่า สาเหตุมาจากการระเบิดของแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน ที่ยึดมาจากเรือสินค้าต่างชาติตั้งแต่ปี 2557 และจัดเก็บในคลังสินค้าที่ท่าเรือของกรุงเบรุต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤตอะไร ก่อนเกิดเหตุระเบิดใหญ่ที่กรุงเบรุต
ยอดตายระเบิดวินาศเบรุต พุ่งทะลุ100ศพแล้ว เจ็บครึ่งหมื่น
ดั่งวันสิ้นโลก โคตรระเบิดกวาดกรุงเบรุต โรงพยาบาลหวั่นล่ม คนเจ็บทะลุ4,000คน