ทรัมป์ประกาศภัยพิบัติรุนแรง – วันที่ 23 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศให้หนึ่งในสถานการณ์ไฟป่าครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นภัยพิบัติรุนแรงแล้ว หลังเกิดขึ้นจากฟ้าผ่าลุกลามทำลายล้างพื้นที่กว่า 1 ล้านเอเคอร์ หรือกว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร เทียบเท่าพื้นที่เกือบ 3 เท่าของกรุงเทพมหานคร


AP

สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าทางการสหรัฐจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงถึง 14,000 นาย เข้าควบคุมเพลิงอย่างน้อย 585 จุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย มีประชาชนต้องอพยพแล้วหลายพันคน

ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ผู้อพยพจำนวนมากไม่ต้องการไปหลบในหลุมหลบภัยที่ทางการจัดหาไว้ให้ เนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในรัฐที่มีการระบาดรุนแรงสุดของสหรัฐ

REUTERS

ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยา คาดจะเกิดกระแสลมแรงซ้ำเติมให้เหตุการณ์เลวร้ายลงอีก และจะทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียถูกควันพิษปกคลุม นอกจากนี้ แคลิฟอร์เนียกำลังประสบปัญหาไฟตกและไฟดับหลายพื้นที่ด้วย ทำให้ทางการต้องขอให้ประชาชนช่วยกันหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้า

นายแกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากฟ้าผ่าหลายกว่า 12,000 ครั้ง หรือเอสซียู ไลต์นิ่ง คอมเพล็กซ์ ไฟร์ ทางใต้และตะวันออกของนครซานฟรานซิสโก ลุกลามกลายเป็นไฟป่าที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของรัฐ

AP

คำสั่งอพยพล่าสุดเกิดขึ้นที่บริเวณอ่าวของนครซานโฮเซ่ ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องหนีเอาชีวิตรอด คำสั่งยังระบุให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเตรียมพร้อมรออพยพทันทีที่มีคำสั่ง เนื่องจากไฟป่าดังกล่าวลุกลามรวดเร็วและส่วนใหญ่นั้นมีเวลาหนีเอาชีวิตรอดเพียงไม่กี่นาที

นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังประสบปัญหาขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หลังขอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลแคนาดาและออสเตรเลีย กำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสหรัฐกำลังประสบความเหนื่อยล้าแสนสาหัส บางส่วนปฏิบัติงานเข้ากะมานานติดต่อกันถึง 72 ชั่วโมงแล้ว


MAXAR
ไลต์นิ่ง คอมเพล็กซ์ ไฟร์ ยังลุกลามเข้าทำลายล้างอุทยานแห่งชาติของรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีพืชพรรณเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปี จนเสียหายอย่างหนัก ทั้งในส่วนของพืชพรรณ สัตว์ป่า และสิ่งก่อสร้างภายในอุทยานถูกไฟเผาวอดวายจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน สร้างความโศกเศร้าเสียดายให้นักอนุรักษ์และเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่า

ส่วนที่เขตซานตาครูซ เคาน์ตี้ ทางใต้ของรัฐ ไฟลุกลามเข้าภายในรัศมี 1.6 ก.ม. ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าขุดสร้างแนวรับไฟป่า และสามารถสกัดไฟที่เข้าปิดล้อมมหาวิทยาลัยไว้ได้อย่างหวุดหวิดด้วย


AP

ความร้ายกาจของไลต์นิ่ง คอมเพล็กซ์ ไฟร์ ทวีความรุนแรงขึ้นรวดเร็ว ขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพิ่งควบคุมเพลิงไว้ได้บางส่วน เกิดขึ้นจากฟ้าผ่ากว่าหมื่นครั้ง และคลื่นความร้อนครั้งรุนแรงที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 54.4 องศาเซลเซียส ที่อุทยานแห่งชาติเดธ วัลเลย์ นับเป็นสถิติอุณหภูมิสูงสุดของอากาศบนโลกเท่าที่เคยมีการตรวจวัดมา

นายนิวซอมระบุว่า แม้แคลิฟอร์เนียมีความคุ้นเคยกับภารกิจบริหารจัดการไฟป่า แต่มีกำลังไม่เพียงพอ จึงขอความช่วยเหลือจากแคนาดา และออสเตรเลีย รวมถึงกำลังและอุปกรณ์จากรัฐอื่นๆ อาทิ โอเรกอน นิว เม็กซิโก และเท็กซัส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน