ถึงเอมิเรตส์ครั้งแรก – วันที่ 31 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า เที่ยวบินพาณิชย์ตรงจาก อิสราเอล มุ่งหน้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ปฐมฤกษ์ครั้งประวัติศาสตร์ ลงจอดที่ยูเออีแล้ว นับเป็นก้าวสำคัญในการปรับความสัมพันธ์กลับสู่ภาวะปกติ หลังประกาศข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองประเทศ

สายการบิน เอล อัล ของอิสราเอล เที่ยวบิน แอลวาย 971 (LY971) หมายเลขรหัสโทรออกระหว่างประเทศของยูเออี นำคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล เดินทางไปยูเออีด้วยระยะเวลา 3 ชั่วโมง และได้รับอนุญาตจากซาอุดีอาระเบียในการข้ามน่านฟ้าซึ่งปกติปิดกั้นการเดินอากาศของอิสราเอลมาตลอด ส่วนเที่ยวบินกลับอิสราเอลจะเป็น แอลวาย 972 (LY972) หมายเลขรหัสโทรออกระหว่างประเทศของอิสราเอล

คณะผู้แทนร่วมทั้งสองชาติ รวมถึง นายจาเร็ด คุชเนอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาระดับสูง และลูกเขยประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และ นายเมอีร์ เบน-ชับบัต ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล จะพบคณะผู้แทนยูเออีเพื่อหารือเพิ่มเติมด้านความร่วมมือต่างๆ ระหว่างอิสราเอลและยูเออี

REUTERS

นายคุชเนอร์กล่าวหลังถึงกรุงอาบูดาบีเมืองหลวงยูเออี บรรยายข้อตกลงระหว่างอิสราเอลและยูเออีเป็น “การพัฒนาครั้งประวัติศาสตร์” และเป็น “เกียรติอย่างยิ่งใหญ่” ที่เข้าร่วมเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้

“สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้คือว่าสามผู้นำชาติยิ่งใหญ่มาด้วยกันและเริ่มเขียนบทใหม่สำหรับตะวันออกกลาง และกล่าวว่า อนาคตไม่จำเป็นต้องเอาอดีตมากำหนดล่วงหน้า” นายคุชเนอร์กล่าว

นายคุชเนอร์ยังฝากข้อความถึงชาวปาเลสไตน์เป็น “หนึ่งในความหวัง” และว่าสันติภาพและโอกาสจะพร้อมชาวแก่ปาเลสไตน์ทันทีที่ชาวปาเลสไตน์พร้อมจะรับเช่นกัน

“พวกเรายื่นข้อเสนอแก่ผู้นำปาเลสไตน์บนโต๊ะการเจรจา เพื่อจะให้ชาวปาเลสไตน์มีสถานะและการตัดสินใจด้วยตนเอง และแผนเศรษฐกิจที่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจตัวเองได้ แต่พวกเราไม่สามารถต้องการสันติภาพมากกว่าที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการสันติภาพได้ และดังนั้นเมื่อชาวปาเลสไตน์พร้อมแล้ว ทั้งภูมิภาครู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะช่วยยกระดับชาวปาเลสไตน์และก้าวต่อไปข้างหน้า แต่ชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถจมปลักกับอดีตได้” นายคุชเนอร์กล่าว

EPA

ขณะที่ นายซาอับ เอเรกัต ผู้นำองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ ประณามข้อตกลงอิสราเอล-ยูเออีเป็นการบ่อนทำลายการต่อสู้เพื่อรัฐเอกราชปาเลสไตน์ และว่า สันติภาพไม่ใช่คำพูดกลวงโบ๋ที่ทำให้อาชญากรรมและการกดขี่เป็นเรื่องธรรม

“สันติภาพคือผลลัพธ์ความยุติธรรม สันติภาพไม่ได้เกิดจากการปฏิเสธสิทธิการดำรงอยู่ของปาเลสไตน์” นายเอเรกัตกล่าว

คณะผู้แทนเดินทางออกจากอิสราเอลไปยูเออี / REUTERS

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยกย่องการเปิดเที่ยวบินตรงเป็นตัวอย่าง “สันติภาพเพื่อสันติภาพ” พาดพิงถึงตัวผู้นำอิสราเอลเองที่ไม่เชื่อมายาวนานความคิดที่ว่า การค้าที่ดินที่ถูกยึดครองเท่านั้นจะนำมาสู่สันติภาพระหว่างอิสราเอลและชาติอาหรับ

การเปิดเที่ยวบินตรงเป็นผลพวงความคืบหน้าล่าสุดนับตั้งแต่ประกาศ ข้อตกลงการปรับความสัมพันธ์กลับสู่ภาวะปกติ ระหว่างอิสราเอลและยูเออี ที่มี สหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของนายคุชเนอร์ เป็นคนกลางในการเจรจาลับ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ต่อมา ทั้งสองชาติเปิดบริการโทรศัพท์สายตรงเป็นครั้งแรก ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ยูเออียกเลิกกฎหมายคว่ำบาตรอิสราเอลที่บังคับมาตั้งแต่ปี 2515

คณะผู้แทนเดินทางออกจากอิสราเอลไปยูเออี / AP

ข้อตกลงสันติภาพอิสราเอล-ยูเออีมีเงื่อนไขว่า อิสราเอลจะระงับแผนการผนวกเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง และปาเลสไตน์อ้างสิทธิเพื่อเป็นรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต สร้างความยินดีต่อหลายประเทศทั่วโลก แต่ยูเออีถูกปาเลสไตน์ประณามเป็นคนทรยศ

ยูเออีกลายเป็นเพียงชาติอาหรับที่สามในตะวันออกกลางที่ยอมรับอิสราเอล ต่อจาก อียิปต์ และ จอร์แดน ที่ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลเมื่อปี 2521 และ 2537 ตามลำดับ

AP

ส่วน มอริเตเนีย ชาติสมาชิกของสันนิบาตอาหรับในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ สถาปนาความสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอลเมื่อปี 2542 แต่ตัดความสัมพันธ์เมื่อปี 2553

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อิสราเอลประเดิม “เที่ยวบินแรก” สู่เอมิเรตส์ ก้าวสำคัญสร้างสันติอาหรับ-ยิว (คลิป)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน