เมล์ออนไลน์รายงานภาพจากกลุ่มสิทธิสัตว์ ออยเกียวตา เอไลมิลเล (Oikeutta eläimille แปลว่า ความยุติธรรมต่อสัตว์) แฉฟาร์มผลิตขนสัตว์สำหรับวงการแฟชั่นในเมืองออสโทรโบธเนีย ภาคตะวันตกของฟินแลนด์ เลี้ยงสุนัขจิ้งจอกให้อวบอ้วนมากอย่างน่าตกใจ เพราะหวังจะได้ปริมาณขนสัตว์จากร่างของมัน

กลุ่มออยเกียวตาฯ กล่าวว่า สุนัขจิ้งจอกเพศเมียในป่าตามธรรมชาติ มีน้ำหนักราว 3.5 กิโลกรัม แต่ตัวที่ถ่ายภาพได้นี้มีน้ำหนักเกิน 19 กิโลกรัม

ทีมสอบสวนของกลุ่มพบข้อมูลที่น่าตกตะลึงว่า พวกมันถูกเพาะพันธุ์ด้วยการคัดเลือกยีนให้มีขนาดตัวใหญ่ จากนั้นยังเลี้ยงด้วยอาหารที่ให้ไขมันสูงมาก เพื่อหวังจะให้มันอ้วนใหญ่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

คลิปภาพที่ถ่ายสุนัขเหล่านี้ในกรง แสดงให้เห็นว่ามันขยับตัวยากเนื่องจากหนังหนาหนักเป็นลอนๆ ขนแทบปิดลูกตา กลุ่มสิทธิสัตว์เผยว่า การเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมายในฟินแลนด์ เพราะถือว่าทำให้สัตว์ทรมาน

สำหรับการทำเสื้อโค้ทขนสัตว์หนึ่งตัว ต้องใช้สุนัขจิ้งจอกตัวธรรมดา 10-20 ตัว นอกจากนี้พวกมันยังถูกเอาชีวิตไปทำหมวก เสื้อกั๊ก ชิ้นส่วนประดับแฟชั้นอีกมาก แต่การเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกอ้วนย้วยแบบนี้จะทำให้ได้ขนที่ใหญ่ขึ้นและได้เงินมากขึ้น

แคลร์ บาส ผู้อำนวยการบริหารองค์การต่อต้านการใช้ขนสัตว์ ประณามอุตสาหกรรมที่คัดเลือกยีนในการเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อเอาขน กรณีนี้ไม่คิดว่าจะทำเรื่องไร้จริยธรรมถึงเพียงนี้ ทำให้สัตว์สวยงามที่น่าสงสารต้องอยู่ในสภาพที่ขยับตัวแทบไม่ได้ ตาแทบมองไม่เห็น

เทียบน้ำหนักกับสุนัขจ้ิงจอกปกติ

“มันตอกย้ำข้อพิสูจน์ที่เราต้องการว่า อุตสาหกรรมขนสัตว์เห็นแต่รายได้ ไม่สนใจสวัสดิการสัตว์เลย ดังนั้นผู้บริโภคน่าจะตกตะลึงและรับไม่ได้กับภาพที่แอบซ่อนอยู่เหล่านี้ และควรจะเลิกใช้ขนสัตว์เพื่อเห็นแก่สัตว์ได้แล้ว” บาสกล่าว

สถิติการค้าของอังกฤษระบุว่า ในช่วง 5 ปีมานี้ สินค้าขนสัตว์จากฟินแลนด์ที่ส่งมาอังกฤษ มีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านปอนด์ ขณะที่กลุ่มออยเกียวตาฯ กล่าวว่า ขนที่ได้จากสุนัขเพาะพันธุ์พิเศษนี้ถูกสอบสวนอยู่ว่าใช้ไปผลิตชุดให้แบรนด์ซากา เฟอร์ (Saga Furs) หรือไม่

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน