โควิด-19: อังกฤษเบรกกลางคัน – เมื่อวันที่ 9 ก.ย. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ล่าสุด เผชิญกับอุปสรรคอีกครั้ง ส่งผลให้การทดลองในมนุษย์ต้องถูกระงับลงอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่ผู้เข้ารับการทดสอบวัคซีนดังกล่าวที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด กับบริษัทยา แอสตราเซเนกา ของอังกฤษ ล้มป่วยลงด้วยอาการที่อธิบายไม่ได้

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มเป็น 27,579,437 คน เสียชีวิตแล้ว 897,614 ราย และหายป่วยแล้ว 18,537,393 คน คงเหลือราว 8.1 ล้านคน

การทดสอบทางคลินิกซึ่งถือเป็นระยะที่สามและระยะสุดท้ายของการพัฒนาวัคซีนที่ใช้ระยะเวลายาวนานที่สุดมีอยู่ 9 แห่งทั่วโลกขณะนี้ และมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด กับบริษัทยา แอสตราเซเนกา เป็นหนึ่งในจำนวนดังกล่าว

ด้านโฆษกบริษัทยา แอสตราเซเนกา กล่าวว่า ทางบริษัทสมัครใจระงับการทดสอบเองเพื่อให้เวลากับคณะกรรมาธิการด้านความปลอดภัยตรวจสอบ ถือเป็นขั้นตอนตามปกติกรณีผู้เข้ารับการทดสอบได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนที่ผิดปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในการทดสอบที่ใช้คนจำนวนมาก

ทางการเม็กซิโก และอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมการวิจัยกับวัคซีนของบริษัทยา แอสตราเซเนกา ระบุว่า การระงับการทดสอบจะส่งผลให้แผนการนำวัคซีนมาใช้ภายในต้นปีหน้าแต่เดิมของรัฐบาลต้องล่าช้าออกไปอีก ขณะที่สถานการณ์การระบาดในทวีปละตินอเมริกามียอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 3 แสนรายแล้ว

เปรู มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วด้วยอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาค มียอดผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 3 หมื่นรายแล้ว ขณะที่บราซิลยังเป็นชาติอันดับหนึ่งในภูมิภาค และอันดับสามของโลกในแง่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต








Advertisement

 

อนามัยโลกยันวัคซีนยังไม่พร้อมปีนี้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อวัคซีนของทางการรัสเซีย และจีน ที่ต่างพยายามจะนำมาใช้จริงภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอาจไม่ปลอดภัยเนื่องจากการทดสอบของวัคซีนดังกล่าวใช้กลุ่มตัวอย่างที่มีปริมาณน้อยเกินไป จึงไม่สามารถระบุถึงประสิทธิภาพและผลข้างเคียงได้ชัดเจน

แต่ล่าสุด ทางการรัสเซียและจีนเริ่มระดมฉีดวัคซีนให้กับคนงานในโรงงานของสายการผลิตที่สำคัญแล้ว รวมถึงสหรัฐอเมริกากรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ต้องการให้นำวัคซีนมาใช้ปีนี้ด้วย โดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เสนอว่าวัคซีนอาจผ่านการรับรองก่อนเสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบความปลอดภัยได้ ส่งผลให้เกิดเสียงทัดทานจากผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก

ด้านการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนว่า ขณะนี้ มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่เกือบ 180 แห่งทั่วโลก และยังไม่มีที่ใดที่เสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบระยะสุดท้าย แม้แต่วัคซีนของจีนและรัสเซีย ยังถือว่าอยู่ระหว่างการทดสอบ

ดับเบิ้ลยูเอชโอคาดจะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากที่ใดที่สามารถผ่านการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานของดับเบิ้ลยูเอชโอได้ในปีนี้ เพราะการทดสอบเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนต้องใช้เวลานานและมีความสำคัญยิ่งยวด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

โควิด: ผลการทดลองครั้งแรกชี้แล้ว วัคซีนของรัสเซียกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน