สหรัฐเผชิญไฟป่า-พายุ ทรัมป์เมินข้อมูลวิทย์โลกร้อน อ้างเดี๋ยวก็เย็นเอง
สหรัฐเผชิญไฟป่า-พายุ + เมื่อ 15 ก.ย. เอพี รายงานสถนการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติรุมเร้าสหรัฐอเมริกา ขณะเผชิญกับทั้งโรคระบาดรุนแรงที่สุดในโลก การประท้วงต่อต้านความรุนแรงของตำรวจต่อคนผิวดำ
สถานการณ์ไฟป่าร้ายแรงทางภาคตะวันตกของประเทศที่สร้างความเสียหายไปแล้วเป็นพื้นที่เทียบได้กับ 13 เท่าของกรุงเทพฯ คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วอย่างน้อย 35 ราย
ขณะเดียวกันพายุเฮอริเคนแซลลี ยังมีทิศทางจะเข้าถล่มมลรัฐในแถบกัลฟ์ โคสต์ ได้แก่ แอละแบมาหลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี ขณะมีความเร็วลม 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดเป็นความรุนแรงระดับสองและมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงเป็นระดับสามด้วย ส่งผลให้ทะเลมีคลื่นสูงถึง 2.4 เมตร และมีฝนตกหนักทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร
สภาพการณ์ดังกล่าวเรียกเสียงวิจารณ์ถึงปัญหาจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวระหว่างหาเสียงและลงพื้นที่เมืองซาคราเมนโต ปฏิเสธอีกครั้งว่าปัญหาโลกร้อนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไฟป่าร้ายแรงทางตะวันตกของประเทศ แต่เป็นเพราะระบบการซ่อมบำรุงในพื้นที่ป่ามีความบกพร่อง ทำให้ป่าติดไฟง่ายขึ้น
นายทรัมป์ยังกล่าวยกเหตุผลน่าตกตะลึงว่า “เดี๋ยวมันก็กลับมาเย็นเองแหละคอยดูสิ” และว่า “ผมว่าวิทยาศาสตร์อ่ะจริงๆ มันก็ไม่รู้แน่หรอก”
ท่าทีดังกล่าวของนายทรัมป์สะท้อนความขัดแย้งกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่งผลให้นายโจ ไบเดน ผู้ลงแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐจากพรรคเดโมแครต กล่าวโจมตีทันทีว่า สหรัฐต้องการผู้นำประเทศที่เคารพหลักวิทยาศาสตร์ และตระหนักว่าผลกระทบของมันมาถึงแล้ว พร้อมเรียกนายทรัมป์ว่าเป็น “นักวางเพลิงด้วยภูมิอากาศ”
++++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พบร่างเด็กชายนอนกอดสุนัข หนีไฟป่าไม่พ้น สหรัฐดับเกิน30ศพ