พบพืชพิษร้าย เทียบของแมงมุม ถ้าหนามตำ เจ็บปวดหลายสัปดาห์

พบพืชพิษร้ายซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียค้นพบพืชที่มีพิษต่อระบบปราสาทคล้ายกับพิษแมงมุมหรือหอยเต้าปูน

ส่วนนักวิจัยชาวอเมริกันและยุโรป พบว่าหากถูกต้นกะลังตังช้างตำเข้าไป อาจเจ็บปวดนานหลายวันหรือหลายสัปดาห์

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ เมื่อวันพุธ เปิดเผยข้อมูลใหม่ว่าหากสัมผัสต้นไม้พิษจะเจ็บปวดอย่างไรซึ่งจะช่วยให้พัฒนายาแก้ปวดได้ในอนาคต

ด้านอิรินา เวตเตอร์ อาจารย์สถาบันชีววิทยาโมเลกุล มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ กล่าวว่าสปีชีส์ต้นไม้หนามพิษมีหนามที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก

ต้นกะลังตังช้าง มีชื่อเรียกท้องถิ่นว่ากิมพีกิมพีเป็นต้นไม้ในป่าฝนที่พบได้ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ความร้ายกาจของต้นนี้อยู่ที่ขนเล็กๆ ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นบนใบจะทิ่มแทงผิวหนังจนทำให้ปวดแสบปวดร้อนไปหลายเดือนเนื่องจากหนามแหลมคล้ายเส้นผมทำหน้าที่เหมือนเข็มฉีดยาใต้ผิวหนังที่ฉีดสารพิษเข้าไปในร่างกาย หากสัมผัสถูกผิวหนัง

พบพืชพิษร้าย

An undated and unplaced handout photo received from the Institute for Molecular Bioscience at the University of Queensland on September 17, 2020 shows the Gympie-Gympie stinging tree. (Photo by -/UNIVERSITY OF QUEENSLAND/AFP via Getty Images)

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบว่าโมเลกุลชนิดใดที่อยู่ภายในพืชชนิดนี้ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

ต้นไม้ชนิดอื่นๆ ที่คล้ายกันมีโมเลกุลเล็กๆ เช่น ฮิสทามีน แอซิติลโคลีน และกรดฟอร์มิก แต่ไม่มีโมเลกุลตัตวใดที่เป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวดแสนสาหัสเหมือนต้นกิมพีกิมพี

Australia is notorious for its poisonous spiders, snakes and sea creatures, but researchers have now identified a “scorpion-like venom” secreted by a native stinging tree that can cause excruciating pain for weeks. AFP PHOTO

จนกระทั่งคณะนักวิจัยค้นพบสารพิษต่อระบบประสาทชนิดใหม่ หรือเรียกได้ว่ากิมพิทไทด์สซึ่งตั้งชื่อตามต้นไม้ เป็นสารพิษที่คล้านยกับสารพิษในแมงมุมหรือหอยเต้าปูน ทำให้ต้นกิมพีกิมพี เป็นต้นไม้พิษอย่างแท้จริง

เวตเตอร์อธิบายว่าอาการปวดแสบปวดร้อนที่นานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ซึ่งเกิดจากต้นไม้ชนิดนี้เป็นเพราะสารกิมพิทไทด์ส เปลี่ยนช่องโซเดียมในประสาทของมนุษย์และหวังว่าจะมียาบรรเทาความเจ็บปวดจากพืชชนิดนี้ในอนาคต

/////////////

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน