อิทธิพลจีนบีบเคป๊อป ได้จริงหรือไม่ ปมอี ฮโย-ริ ใช้ชื่อ “เหมา”
อิทธิพลจีนบีบเคป๊อป – เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานวิเคราะห์กระแสที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนรุมแสดงความไม่พอใจต่อนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ อี ฮโย–ริ ดาวดังเกาหลีใต้ ด้วยความคิดว่า ไม่เคารพอดีตผู้นำเหมา เจ๋อ ตุง ของจีน เนื่องจากซุปตาร์สาวใช้ชื่อ “เหมา” เป็นชื่อในการแสดงรายการโชว์ทางโทรทัศน์ และยังทำให้เพื่อนร่วมชาติอีกหลายคนไม่สบอารมณ์ จากการที่จีนแบนธุรกิจของชาวเกาหลีใต้ในประเทศ
ก่อนหน้านี้ มีตัวอย่างจีนโจมตีเชเลบเกาหลีใต้มาแล้วในปี 2559 เมื่อ โจว จื่ออวี๋ นักร้องชาวไต้หวัน สมาชิกวง Twice ถูกบังคับให้ขอโทษจีนที่ถือธงไต้หวันคู่กับธงเกาหลีใต้ในระหว่างเรียลริตีโชว์ เพราะจีนยึดนโยบายจีนเดียวและถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
แม้ผู้เชี่ยวชาญไม่อาจฟันธงว่ารัฐบาลจีนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าอิทธิพลของรัฐบาลจีนมีผลต่อดาราเกาหลีใต้ รวมทั้ง สังกัด บริษัทผู้ผลิตและสถานีโทรทัศน์มากขึ้นเพราะกระแสเกาหลี หรือ ฮันรยู ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน ดังนั้น เนื้อหาจึงอาจจะสอดคล้องหรือต่อต้านการรักชาติในสังคมจีนได้
พาร์ก วอน–กอน อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮันดง โกลบอล ในเกาหลีใต้ กล่าวว่าชาวจีน ชาวเกาหลีใต้และชาวญี่ปุ่นมีเลือดรักชาติแรง แต่ความรักชาติของชาวจีนแตกต่างจากเพื่อนบ้าน 2 ประเทศเพราะจีนมีรัฐบาลกุมบังเหียน ไม่ได้ขับเคลื่อนโดยประชาชน ทำให้เชื่อว่ากระแสวิจารรณ์ดาราเกาหลีอาจจะมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องซึ่งมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่เบื้องหลัง
ขณะที่ กวก จิน โอ นักวิจัยอาวุโสมูลนิธิประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือไม่เชื่อว่ารัฐบาลจีนจูงจมูกประชาชนให้ถล่มความเห็นประเด็นอ่อนไหวทางสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากรัฐบาลในสังคมที่ถูกควบคุม จับจ้องมองสื่อสังคมออนไลน์เพื่อประโยชน์ต่อความเป็นผู้นำของประเทศซึ่งจีนพยายามยกย่องสถานะของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่หาทางอยู่ในอำนาจตลอดกาล หลังจากแก้ไขข้อจำกัดในการดำรงตำแหน่งได้ 2 วาระ
ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับ อี ฮโย–รี จึงสะท้อนให้เห็นวิธีการที่จีนสนับสนุนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยนัยเพราะสอดคล้องกับการยกย่องประธานาธิบดีสีให้เป็นไอดอลของประเทศ เช่นเดียวกับท่านประธานเหมา
ด้านชู แจ–วู อาจารย์ด้านจีนศึกษา มหาวิทยาลัยกยุงฮี ตั้งข้อสังเกตว่านับตั้งแต่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 ก็ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีทันทีและส่งผลกระทบต่อการเผยแพร่ทางออนไลน์ในจีนซึ่งเป็นการปิดฉากอาชีพในจีนทันทีเช่นกัน
ในตอนนั้น จีนไม่อนุญาตให้ดาราเกาหลีใต้เข้าประเทศและระงับการออกอากาศละครเกาหลีใต้รวมทั้งคอนเสิร์ตนักร้องเค–ป๊อป ซึ่งบางข้อห้ามยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน
ส่วน คิม ดอง–ฮา อาจารย์ด้านต่างประเทศศึกษา มหาวิทยาลัยปูซาน ไม่ได้ให้ราคากับข้อโต้เถียงกรณี อี ฮโย–ริ มากนัก จากการเทียบจำนวนที่ชาวจีนทิ้งข้อความตำหนิ อี ฮโย–ริ มีประมาณ 200,000 ข้อความ แต่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนแผ่นดินใหญ่มีประมาณ 600 ล้านคนและเชื่อว่าชาวจีนส่วนใหญ่ที่แสดงความเห็นเป็นนักศึกษาชาวจีนในเกาหลีใต้
พักแนะอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ว่าวิธีการรับมือกับอิทธิพลของจีน คือ การสนับสนุนจากภาคประชาสังคมในเกาหลีใต้
เมื่อเร็วๆ นี้ ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้เริ่มรณรงค์ออนไลน์ต่อสิ่งที่เห็นว่าจีนกำลังปลุกกระแสรักชาติและคัดค้านการโจมตีผู้อื่นโดยอ้างความรักชาติ
นักวิชาการเกาหลีแนะนำว่าบริษัทอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ควรทำความเข้าจีนให้ลึกซึ้งและสร้างความตระหนักให้แฟนๆ ชาวจีนรู้จักเสรีภาพในการแสดงออก อีกทั้งควรให้ชาวจีนรู้ว่าการพลั้งปากพูดอะไรออกไปเป็นอันตราย แต่เป็นเสรีภาพในการพูดของชาวเกาหลีใต้เช่นกัน
ส่วนชูแนะนำวิธีการว่าให้เน้นไปที่เนื้อหาการนำเสนอให้ชาวจีนเห็นว่าเคารพมุมมองของชาวจีน
////////////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
มู่หลานซึม ขนาดสร้างเอาใจจีน ถูกม็อบฮ่องกงต้าน ก็แป้กในแผ่นดินใหญ่