2วัยรุ่นสำนึกผิด เล่นคะนองผลักท่อนซุงลงหน้าผา ทับช่างภาพหญิงดับ
2วัยรุ่นสำนึกผิด – เดลีเมล์ รายงานการพิจารณาคดีวัยรุ่นเล่นคึกคะนอง ผลักท่อนซุงหนัก 33.5 กิโลกรัม ลงจากหน้าผาและหล่นลงไปกระแทกช่างภาพหญิงแม่ลูกสี่ อายุ 44 ปี ถึงแก่ความตาย
จำเลยชื่อ นายเจเดน เชิร์ชเฮิส และจอร์แดน บัคลีย์ อายุ 17 ปีเท่ากัน ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา เป็นเหตุให้นางวิกตอเรีย เชฟเฟอร์ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุทยานแห่งชาติฮอคกิง ฮิลส์ สเตต รัฐโอไฮโอ
ระหว่างให้การนายเชิร์ชเฮิสยังกล่าวสำนึกผิดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องมีชีวิตเปลี่ยนไป
“ผมรู้ว่าไม่มีคำพูดใดที่พูดไปแล้วจะนำภรรยา ลูกสาว และพี่น้องที่รักยิ่งของพวกคุณกลับมาได้ ความหวังของผมจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือนำความชอกช้ำใจนี้เรียนรู้และอยู่กับมันไปตลอดชีวิตของผม เพื่อให้เกียรติแก่คุณเชฟเฟอร์ ผมอยากให้อุทาหรณ์นี้ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดอื่นๆ ที่คล้ายกันนี้อีก” นายเชิร์ชเฮิสกล่าว
ด้านนายบัคลีย์กล่าวว่าไม่มีวันไหนสักวันเดียวที่จะไม่คิดถึงโศกนาฏกรรมที่ตนก่อขึ้นและหวังว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตคงให้อภัยสักวัน
เชฟเฟอร์ เป็นแม่ลูก 4 และเป็นเจ้าของสตูดิโอถ่ายภาพ รวมทั้ง ทำงานการกุศลในชุมชน วันเกิดเหตุช่างภาพหญิงพาลูกศิษย์วัยรุ่น 5 คนไปฝึกถ่ายรูป ช่วงวันหยุดตรงกับวันแรงงาน 1 พ.ค.2562 แต่กลับประสบเคราะห์เสียชีวิตคาที่
ตอนแรก เจ้าหน้าที่คาดว่าคงเป็นอุบัติเหตุ แต่หลังจากสอบสวนในเบื้องต้นทำให้พบว่าท่อนไม้ยาวเกือบ 2 เมตรไม่ได้ตกลงจากหน้าผาเอง แต่ถูกผลักหรือโยนลงมาและกระแทกเชฟเฟอร์ อายุ 44 ปี ถึงแก่ความตาย
ด้านสามีของเชฟเฟอร์กล่าวว่าขณะเกิดเหตุภรรยากำลังถ่ายรูปพร้อมกับนักเรียน 5 คน ใกล้ถ้ำโอลด์แมน อยู่ๆ ก็มีท่อนไม้หนักราว 33.5 ก.ก. ตกลงมาจากหน้าผาสูง 23 เมตรและตกลงมาใส่ภรรยาที่กำลังนั่งอยู่บนขั้นบันไดทำให้เสียชีวิตทันที
ตำรวจได้เบาะแสว่าวัยรุ่นวัย 16 ปีส่งข้อความสารภาพกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนว่าเขาและเพื่อนอีกคนหนึ่ง อายุ 16 ปีทำสิ่งเลวร้ายในอุทยานแห่งชาติ
ในเบื้องต้น ขณะถูกสอบปากคำระหว่างถูกควบคุมตัวทั้ง 2 คน ไม่ยอมรับความผิด แต่เมื่อสอบสวนเพิ่มเติม จึงสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนผลักท่อนไม้ลงจากหน้าผาเอง
ด้านมิรันดา เพื่อนของทั้ง 2 คนซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกล่าวว่าเพื่อนทำไปเพราะความคึกคะนอง
ขณะที่อัยการพิจารณาวัยรุ่นทั้ง 2 คนให้เหมือนกับการพิจารณาคดีผู้ใหญ่เพราะทั้ง 2 คน พยายามปกปิดความผิดและไม่เปิดเผยตัวจนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านไปแล้วเป็นเดือน และพบด้วยว่าทั้งคู่มึนเมาในขณะก่อเหตุ
ศาลเยาวชนพิจารณาให้จำเลยทั้ง 2 คน ว่ามีฐานความผิดรุนแรงเท่ากับผู้ใหญ่เพราะกระทำการอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น แต่วัยรุ่นทั้งคู่ยื่นคำร้องขอลดฐานความผิดจากฆาตกรรมและฆาตกรรมโดยประมาทและขอให้ส่งคดีกลับไปยังศาลเยาวชน
ผู้พิพากษาแนะนำให้จำคุกวัยรุ่นทั้งสอง 3 ปีถึง4 ปีครึ่ง โดยจะอ่านคำพิพากษาและกำหนดให้รับโทษตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ที่จะถึงนี้
/////////////