ออสซี่ปล่อย “แทสเมเนียนเดวิล” คืนป่าแผ่นดินใหญ่ หลังสูญพันธุ์กว่า 3,000 ปี!
ออสซี่ปล่อย “แทสเมเนียนเดวิล” – วันที่ 5 ต.ค. เอเอฟพี รายงานข่าวน่ายินดีด้านการอนุรักษ์สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ในออสเตรเลีย หลังจากองค์กรออสซี่อาร์กปล่อย “แทสเมเนียนเดวิล” สัตว์กระเป๋าหน้าท้องซึ่งปัจจุบันมีถิ่นฐานเฉพาะในรัฐแทสเมเนีย จำนวน 26 ตัวสู่พื้นที่อนุรักษ์กว่า 2,500 ไร่ในอุทยานแห่งชาติบาร์ริงตันท็อปส์ ทางเหนือของนครซิดนีย์ ซึ่งถือเป็นการกลับคืนของแทสเมเนียนเดวิลบนแผ่นดินใหญ่หลังสูญพันธุ์ไปแล้วร่วม 3,000 ปี
นายทิม ฟอล์กเนอร์ ประธานออสซี่อาร์ก เปิดเผยว่าการปล่อยแทสเมเนียนเดวิลเข้าป่าครั้งประวัติศาสตร์ในช่วงเดือนก.ค. ถึงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการทุ่มเทเพาะพันธุ์แทสเมเนียนเดวิลมานานกว่า 16 ปี ในที่สุดความฝันที่จะนำสัตว์น่าอัศจรรย์ชนิดนี้กลับสู่แผ่นดินใหญ่ก็สำเร็จลุล่วง
“สัตว์นักล่าท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินใหญ่ของเราคือ ไทเกอร์ ควอลล์ – พวกมันหนักแค่กิโลฯ กว่าๆ – ดังนั้นการนำสัตว์ที่มีขนาดเท่านี้กลับมาได้ถือเป็นเรื่องใหญ่” นายฟอล์กเนอร์กล่าว
ทั้งนี้ แทสเมเนียนเดวิลมีขนาดใกล้เคียงกับสุนัขตัวเล็ก เป็นมาร์ซูเปียลหรือสัตว์กระเป๋าหน้าท้องชนิดกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ไทลาซีนสูญพันธุ์ไปเมื่อปี 2479
ตัวผู้โตเต็มวัยจะมีความยาวลำตัว (หัวและตัว) สูงสุดที่ 65 เซนติเมตร และหนัก 8 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียมีความยาวฉลี่ย 57-60 เซนติเมตร หนัก 6 กิโลกรัม จากข้อมูลของรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าแทสเมเนียนเดวิลไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง หรือปศุสัตว์ และจะต่อสู้เมื่อถูกโจมตีเท่านั้น
ประชากรแทสเมเนียนเดวิลในปัจจุบันเหลือราวๆ 25,000 ตัว จากเดิมทีเคยมีมากกว่า 150,000 ตัว แต่เพราะเผชิญกับโรคระบาดปริศนาที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและมีเนื้องอกคล้ายมะเร็งในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 จำนวนแทสเมเนียนเดวิลจึงลดลงอย่างรวดเร็ว และหากนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาวิธีรักษาได้ สัตว์พิเศษชนิดนี้มัแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ไปจากโลกภายในปี 2578 หรืออีกแค่ 15 ปีข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: