โควิด : ยุโรปสาหัส! ปธน.เยอรมัน “แยกกักตัว” รมต.เบลเยียม-ออสเตรีย “ติดไวรัส”
โควิด : ยุโรปสาหัส! – วันที่ 18 ต.ค. ดอยเช่อ เวลเล่อ ระบุว่า นายฟรังก์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี เริ่มแยกกักตัวเฝ้าดูอาการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมยกเลิกภารกิจ และกำหนดร่วมพิธีเปิดมหกรรมหนังสือนครแฟรงก์เฟิร์ตปี 2020 ภายหลังเจ้าหน้าที่อารักขานายหนึ่งตรวจพบว่ามีเชื้อ โควิด-19
ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่าการตรวจหาเชื้อครั้งแรกของนายชไตน์ไมเออร์มีผลเป็นลบ แต่เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด นายชไตน์ไมเออร์จึงแยกกักตัวและจะเร่งตรวจหาเชื้อครั้งที่สองใน 2-3 วันข้างหน้านี้ สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 7,830 คน นับเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันที่สูงที่สุดของเยอรมนี รวมยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 361,733 คน และเสียชีวิตแล้ว 9,853 ราย
ก่อนหน้านี้ นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิง แยกกักตัวและทำงานที่บ้านพักนาน 2 สัปดาห์เมื่อเดือนมี.ค. ภายหลังพบปะหารือกับแพทย์ซึ่งตรวจพบในเวลาต่อมาว่าป่วยเป็นโควิด-19 แต่นางแมร์เคิลไม่ติดเชื้อและกลับมาทำงานตามปกติ
ส่วน นายไฮโค มาส รมว.ต่างประเทศเยอรมนี แยกกักตัวเช่นกันเมื่อเดือนก.ย. เนื่องจากเจ้าหน้าที่อารักขาติดไวรัสมรณะ อย่างไรก็ตาม ผลตรวจหาเชื้อของนายมาสเป็นลบทั้งสองครั้ง
รมว.เบลเยียม-ออสเตรียป่วยโควิด
วันเดียวกัน นางซอฟี วีลแม็ส รมว.ต่างประเทศเบลเยียม โพสต์ข้อความทางทวิตดตอร์ว่าผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของตนเป็นบวก และคาดว่าจะเป็นการระบาดจากสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากตนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อเมื่อออกนอกบ้านทุกครั้ง ตนเริ่มกักตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ต.ค. หลังจากมีอาการป่วยต้องสงสัย
ขณะที่รัฐบาลเบลเยียมแถลงยกระดับคุมเข้มซึ่งจะบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. มีมาตรการหลักได้แก่ ร้านอาหารและสถานบันเทิงปิดขะต้องให้บริการอย่างน้อย 1 เดือน บังคับให้ทำงานที่บ้าน และเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าวงเวลา 24.00-05.00 น.
ที่ออสเตรีย นายอเล็กซานเดอร์ ชัลเลินแบร์ก รมว.ต่างประเทศออสเตรีย แถลงแยกกักตัวที่บ้านพัก หลังผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก พร้อมย้ำว่ายังรู้สึกสบายดีและไม่มีอาการป่วยใดๆ โฆษกของนายชัลเลินแบร์กระบุคาดว่า นายชัลเลินแบร์กอาจได้รับเชื้อระหว่างร่วมประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ที่ลักเซมเบิร์ก เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งนางวีลแม็สเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: