คิม จอง-อึน – บีบีซี และ มิร์เรอร์ รายงานว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ สั่งให้ประชาชนอยู่ในบ้าน ภายหลังที่เมื่อวันพุธ 21 ต.ค. สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานพยากรณ์อากาศพิเศษ เตือนความเป็นไปได้ที่จะเกิดปรากฏการณ์ ฝุ่นเหลือง ที่พัดเข้ามาจากจีนเข้ามาในวันรุ่งขึ้น (22 ต.ค.) อาจนำพา ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เข้ามาแพร่ในเกาหลีเหนือด้วย

เอ็นเค นิวส์ รายงานบรรยากาศเมื่อวันที่ 22 ต.ค. แทบไม่เห็นประชาชนบนท้องถนนในกรุงพย็องยัง แหล่งข่าวภายในเกาหลีเหนือบอกว่า ประชาชนเพียงหยิบมือสวมเสื้อกันฝนออกมาเดินข้างนอก ทั้งที่ฝนไม่ตกในวันนั้น นอกจากนี้ โทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คนงานตามเขตก่อสร้างทั่วประเทศห้ามทำงานกลางแจ้ง

ส่วนหนังสือพิมพ์โรดง กระบอกเสียงพรรคคนงาน ตีพิมพ์บทความว่า ผู้ปฏิบัติงานกักโรคต่อต้านการระบาดใหญ่ทั่วประเทศควรทราบอย่างดีถึงอันตรายของไวรัสที่เข้ามาเกาหลีเหนือผ่านฝุ่นเหลือง และอ้างการวิจัยทั่วโลกที่แสดงว่า โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศได้ เกาหลีเหนือจึงควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับฝุ่นเหลืองที่พัดเข้ามาในประเทศ

นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือแจ้งคณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ แนะนำอยู่ในร่มและปิดหน้าต่างทุกบานอย่างแน่นหนาตลอดวัน

สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงพย็องยังแจ้งทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่า “เราได้รับแจ้งว่ามาตรการเหล่านี้เนื่องจากว่าโควิด-19 สามารถเข้ามาในดินแดนเกาหลีเหนือได้พร้อมกับอานุภาคฝุ่นเหลือง”

สถานทูตรัสเซียยังอ้างว่า สถานกงสุลรัสเซียประจำเมืองช็องจิน ตลอดจน คนงานที่ ราซอนคอนทรานส์ (RasonConTrans) กิจการร่วมค้ารัสเซีย-เกาหลีเหนือในเมืองราซอน ซึ่งพรมแดนติดกับรัสเซีย ได้รับการเตือนคล้ายกันด้วย

ทั้งนี้ ฝุ่นเหลืองคือทรายจากทะเลทรายมองโกเลียและจีนที่พัดเข้ามาเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ช่วงหนึ่งของทุกปี เป็นฝุ่นพิษที่สร้างความกังวลต่อสุขภาพในทั้งสองเกาหลีมาหลายปี อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบความเชื่อมโยงระหว่างฝุ่นเหลืองตามฤดูกาลและโควิด-19

รายงานระบุว่า ฝุ่นเหลืองจะหายไปจากคาบสมุทรเกาหลีภายในวันที่ 23 ต.ค. และพยากรณ์อากาศระบุจะยังอยู่เช่นนั้นช่วงสุดสัปดาห์ข้างหน้า

ที่ผ่านมา ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนืออ้างมาตลอดว่า ประเทศยังไร้ผู้ป่วยโควิด-19 และเฝ้าระวังขั้นสูงสุดตั้งแต่ต้นปีด้วยการปิดพรมแดนและกำจัดการเดินทางเข้มงวด ทั้งที่ทั่วโลกยังกำลังเผชิญกับการระบาดใหญ่ที่คร่าชีวิตมากกว่า 1 ล้านรายแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เกาหลีใต้เร่งสอบ 13 ศพดับปริศนา หลังฉีด “วัคซีน” ไข้หวัดใหญ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน