เลือกตั้งสหรัฐ: แม้ว่า นายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงศึกเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา พรรคเดโมแครตจะมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 270 คะแนน เกินกึ่งหนึ่งของ 538 คะแนน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ทำให้บรรดาผู้นำโลกต่างรีบแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายไบเดน

แต่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ผู้ชิงตำแหน่งต่อสมัยที่สอง พรรครีพับลิกัน ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 214 คะแนน กำลังเดินหน้าการต่อสู้ทางกฎหมาย ภายหลังอ้างถึงการโกงการเลือกตั้งในหลายรัฐ

ขณะเดียวกัน ผู้นำบางประเทศยังไม่ส่งสารแสดงความยินดีหรือสนับสนุนชัยชนะของนายไบเดนเช่นกัน

REUTERS

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน

เมื่อ 4 ปีก่อน ประธานาธิบดีปูตินเป็นผู้นำโลกคนแรกๆ ที่ยินดีประธานาธิบดีทรัมป์ที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 แต่มาตอนนี้ ผู้นำรัสเซียยังไม่ได้ทวีตข้อความ ส่งโทรเลข และโทรหานายไบเดน

นายดมีตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินชี้แจงเหตุผลที่ล่าช้าเนื่องจากการต่อสู้ทางกฎหมายจากทีมหาเสียงประธานาธิบดีทรัมป์ “เราเชื่อว่าสิ่งถูกต้องที่จะทำคือรอผลการเลือกตั้งทางการ”

นายไบเดนเป็นนักวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียตัวยง และบอกรัสเซียเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสุดต่ออเมริกา ขณะที่นายทรัมป์แทบไม่วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียหรือนายปูตินเลย อีกทั้ง รัสเซียเคยถูกครหาแทรกแซงในการเลือกตั้งสหรัฐปี 2559 ที่ทำให้นายทรัมป์ชนะด้วย

REUTERS

นายกรัฐมนตรีสโลวีเนีย ยาเนส ยันซา

นายยันซาออกตัวสนับสนุนนายทรัมป์อย่างโจ่งแจ้ง แม้กระทั่งทวีตข้อความยินดีกับนายทรัมป์ที่มีคะแนนเลือกตั้งนำ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ทั้งที่การนับคะแนนจะยังไม่เสร็จ และออกมากล่าวหาหลายครั้งว่า พรรคเดโมแครตโกงการเลือกตั้ง

แต่ภายหลังที่นายไบเดนได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คะแนน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายยันซาออกมาพูดในท่าทีประนีประนอมมากขึ้นว่า สหรัฐเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ของสโลวีเนีย และว่าความสัมพันธ์ฉันมิตรจะยังอยู่ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดี แต่ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับนายไบเดน

นายยันซาเป็นนักการเมืองจาก พรรคประชาธิปไตยของสโลวีเนีย แนวคิดขวาจัดต่อต้านผู้อพยพ เป็นพันธมิตรของนายกรัฐมนตรีฮังการี วิตเตอร์ ออร์บัน ซึ่งเคยสนับสนุนนายทรัมป์ แต่ตอนนี้แสดงความยินดีกับนายไบเดน

นางเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน เป็นคนสโลวีเนียเช่นกัน ซึ่งเพิ่งบอกให้สามียอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งไป

 

รัฐมนตรีมหาดไทยของเอสโตเนีย มาร์ต เฮลเม

นายเฮลเมประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ ภายหลังที่เจ้าตัวและ นายมาร์ติน เฮลเม รัฐมนตรีการคลัง ลูกชาย ให้สัมภาษณ์ทอล์คโชว์ทางวิทยุเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ถึงการโกงการเลือกตั้งสหรัฐเป็นวงกว้าง อ้างต้องลาออกเนื่องจากถูกใส่ร้ายตามสื่อแขนงต่างๆ

นายเฮลเมผู้พ่อยังพูดถึงข้อครหาทุจริตของนายไบเดนและ นายฮันเตอร์ ลูกชายนายไบเดน ขณะที่นายเฮลเมผู้ลูกบอกว่า คนปกติทุกคนควรพูดถึงข้อครหาดังกล่าว

“ไม่มีประเด็นใดในการพูดถึงประชาธิปไตยหรือหลักนิติธรรมใดๆ หากการเลือกตั้งอาจเป็นไปด้วยการโกงขนานใหญ่อย่างบุ่มบ่ามและโจ่งแจ้ง” นายเฮลเมผู้ลูกเสริม

สองพ่อลูกรัฐมนตรีเอสโตเนียเป็นสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมขวาจัด ที่มีนายเฮลมีผู้ลูกเป็นหัวหน้าด้วย พรรคนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคกลางและพรรคฝ่ายขวาอีกพรรค

อย่างไรก็ตาม นายยูรี ราตัส นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย กลับแสดงความยินดีกับนายไบเดน และแม้จะวิพากษ์วิจารณ์สองพ่อลูกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้ไล่ออกจากตำแหน่ง ทำให้นักวิพากษ์วิจารณ์มองว่า นายราตัสต้องการให้พรรคอนุรักษนิยมสนับสนุนตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไป

 

ประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู

ประธานาธิบดีโบลโซนารูถือเป็นพันธมิตรคนหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ถึงขั้นได้รับการขนานนามเป็น “ทรัมป์แห่งเขตร้อน” จึงไม่แปลกที่ตอนนี้ยังไม่แสดงความยินดีกับนายไบเดน

ประธานาธิบดีโบลโซนารูเคยฟาดฟันกับนายไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี ในสมัยรัฐบาล ประธานาธิบดีบารัก โอบามา วิจารณ์ข้อเรียกร้องของนายไบเดน ระหว่างดีเบตเลือกตั้งสหรัฐ ในการผลักดันให้บราซิลปกป้องผืนป่าแอมะซอนดีขึ้น เป็น ความหายนะและไม่จำเป็น

สื่อบราซิลอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลว่า นายโบลโซนารูจะรอจนกว่าการต่อสู้ทางกฎหมายของนายทรัมป์จะสิ้นสุดก่อนจะแถลงยินดี

 

ประธานาธิบดีเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราโดร์

นายโลเปซ โอบราดอร์ เป็นผู้นำละตินอเมริกาอีกคนหนึ่งที่พยายามรักษาความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ แม้จะมีความตึงเครียดเกี่ยวกับนโยบายสายแข็งของนายทรัมป์เกี่ยวกับผู้อพยพและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำมั่นที่จะสร้างกำแพงตามแนวพรมแดนทั้งสองประเทศ ผู้นำเม็กซิโก

นายโอบราดอร์จึงระมัดระวังเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐเช่นกัน และกล่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ย. จะรอให้ปัญหาทางกฎหมายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐได้รับการสะสางเสร็จสิ้นก่อน

นายโอบราดอร์กล่าวว่า “เราไม่ต้องการรีบร้อน เราไม่ต้องการทำตัวเบาๆ” และว่า “เม็กซิโกมีความสัมพันธ์ดีมากกับนายทรัมป์และนายไบเดน”

REUTERS

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู

นายเนทันยาฮูเป็นอีกผู้นำโลกที่ไม่เคยปิดบังความสัมพันธ์ที่มีต่อนายทรัมป์ แม้จะออกคลิปวิดีโอแสดงความยินดีกับนายไบเดน แต่ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า ผู้นำอิสราเอลไม่ได้เอ่ยสองคำ คือ ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี (president-elect) และ ผู้ได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดี (vice-president-elect)

“ผมขอเปิดด้วยคำทักทายกับโจ ไบเดน และกมลา แฮร์ริส ผมมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอบอุ่นและยาวนานกับโจ ไบเดน เกือบ 40 ปี และผมรู้จักเขาในฐานะเพื่อนยิ่งใหญ่ของรัฐอิสราเอล”

นายเนทันยาฮูปิดท้ายข้อความด้วยการสรรเสริญประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับมิตรภาพที่มีต่ออิสราเอลและนายเนทันยาฮูเป็นการส่วนตัวด้วย และขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่ยอมรับ นครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงอิสราเอล เป็นการพลิกนโยบายต่างประเทศของสหรัฐหลายทศวรรษ และขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่ออิหร่าน

 

มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบีย

มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียแสดงความยินดีกับนายไบเดนที่ชนะเลือกตั้ง แต่ออกมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย. หนึ่งวันหลังเป็นข่าว ขณะที่บรรดาผู้นำตะวันออกกลางชาติต่างแสดงความยินดีเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งเป็นข่าว

มีการตั้งข้อสังเกตว่า มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่แสดงความยินดีกับ ประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี ผู้นำแทนซาเนีย ในการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.

ขณะที่นายไบเดนเคยให้คำมั่นจะประเมินความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีฆาตกรรมนายจามัล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดิอาระเบีย และสงครามกลางเมืองในเยเมน

 

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง

ประธานาธิบดีสีส่งสารแสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ เพียงหนึ่งวันภายหลังที่นายทรัมป์ชนะเลือกตั้งปี 2559 แต่ครั้งนี้จีนไม่แสดงปฏิกิริยาต่อผลการเลือกตั้งสหรัฐ

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุถึงการประกาศชัยชนะของนายไบเดน แต่กล่าวว่ารัฐบาลจีนจะติดตามขั้นตอนและกระบวนการกฎหมายที่จะตามมา

คาดว่านายไบเดนจะเป็นผู้นำสหรัฐเหมาะสมมากขึ้นในการเข้าหาจีน แต่ยังรักษาท่าทีแข็งแกร่งไปด้วย ต่างจากนายทรัมป์ ผู้วิพากษ์วิจารณ์จีนอย่างรุนแรงเนื่องด้วยโควิด-19 และเข้าไปเกี่ยวกับกับสงครามการค้า เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนจำนวนมาก

REUTERS

ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จอง-อึน

นายคิมไม่แสดงปฏิกิริยาต่อผลการเลือกตั้งสหรัฐ เช่นเดียวกับสื่อทางการเกาหลีเหนือ แต่สมัยที่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งปี 2559 สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานอีกสองวันต่อมา

นายทรัมป์และนายคิมมีความสัมพันธ์ไม่ราบรื่น แม้จะเคยติดต่อผ่านการประชุมครั้งประวัติศาสตร์สามครั้งก็ตาม ส่วนนายไบเดนเคยบรรยายนายคิมเป็น คนอันธพาล และไม่สนใจกับนายคิมในด้านการทูตส่วนตัว ทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกนายไบเดนเป็น คนโง่ไอคิวต่ำ

ที่มา: บีบีซี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน