ทรัมป์ต้องมาก่อน โชว์ยังเป็นผู้นำ โผล่จอเอเปก ฉากไม่เหมือนคนอื่น
ทรัมป์ต้องมาก่อน – วันที่ 20 พ.ย. เอเอฟพี รายงานการประชุมสุดยอดความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ประจำปี 2563 ทางออนไลน์ที่มีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ทำตัวโดดเด่นเป็นแกะดำตั้งแต่เริ่มต้นการประชุม เมื่อไม่ใช้ฉากการประชุมเหมือนผู้นำคนอื่นๆ
นายทรัมป์ใช้ฉากหลังสีเบจภายในทำเนียบขาว ตัดกับฉากหลังของผู้นำคนอื่นๆ ที่เป็นสีฟ้าและมีตึกโดมของสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
แหล่งข่าวผู้จัดการประชุมกล่าวว่า นายทรัมป์ปฏิเสธใช้ฉากหลังการประชุมของมาเลเซีย และจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดาผู้นำสมาชิก แต่จะไม่เปิดเผยต่อสื่อมวลชน
ท่าทีดังกล่าวของผู้นำสหรัฐสอดคล้องกับที่นายโอ เอ ซุน นักวิเคราะห์จากสถาบันการระหว่างประเทศสิงคโปร์ เคยวิเคราะห์ว่า นายทรัมป์จะใช้โอกาสนี้นำเสนอตัวเองในฐานะประธานาธิบดีเพื่อความได้เปรียบทางการเมืองในประเทศ หลังแพ้นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย. แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมแพ้และหาช่องทางกฎหมายต่อสู้ผลการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายทรัมป์จะต้องการย้ำความสำคัญของรัฐบาลตัวเองในลัทธิการคุ้มครองการค้าและในการขัดขวางจีนผู้อ้างสิทธิ์ความเป็นผู้นำในวาระการประชุมการค้าเสรีโลก
ดังที่นายสี จิ้น-ผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวปาฐกถาพิเศษในเวทีเอเปก ซีอีโอ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. แสดงจุดยืนของจีนที่สนับสนุนการค้าเสรีและให้คำมั่นจะรักษาการเปิดเศรษฐกิจขนาดใหญ่พิเศษด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่จีนพร้อมชาติเอเชีย-แปซิฟิก 14 ชาติ ยกเว้นสหรัฐ ลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ข้อตกลงการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับถูกมองเป็นการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค
สำหรับความคืบหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในส่วนของรัฐจอร์เจียที่เสร็จสิ้นการนับคะแนนใหม่ด้วยมือ 2 สัปดาห์ นายไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายชนะนายทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน เฉือนเพียง 12,284 คะแนน นายไบเดนเป็นฝ่ายกวาดคณะ ผู้เลือกตั้งจากรัฐจอร์เจีย 16 เสียง มีคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มเป็น 306 เสียง ทิ้งห่างนายทรัมป์ที่มี 232 เสียง
+++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สีจิ้นผิงย้ำการค้าเสรี-ทรัมป์จ่อถกเอเปก