โควิด: สนามบินเซี่ยงไฮ้ – วันที่ 23 พ.ย. เมโทร รายงานว่า สนามบินในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนตกอยู่ในความโกลาหล ด้วยพนักงานสวมชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (พีพีอี) บังคับให้พนักงานสนามบินหลายพันคนเข้ารับการตรวจหาโควิด-19 เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.
ภายหลังที่นครเซี่ยงไฮ้ยืนยันผู้ติดเชื้อใหม่ 2 คน สัมผัสใกล้ชิดกับพนักงานสนามบินคนหนึ่งที่มีผลการตรวจหาโควิด-19 เป็นบวก และบรรดาเจ้าหน้าที่ในท่าอากาศยานนานาชาติซ่างไห่ผู่ตงตัดสินใจตรวจหาเชื้อหลายหมื่นคน เก็บตัวอย่างได้ 17,719 ตัวอย่าง ตลอดช่วงหลังเที่ยงคืนของของเช้าวันนี้
AP
คำสั่งกระชั้นชิดดังกล่าวที่ออกมาทำให้พนักงานสนามบินกลุ่มใหญ่เดินคล้องแขนและผลักดันเจ้าหน้าที่สวมพีพีอีกลับไป ซึ่งพยายามต้อนคนกลุ่มดังกล่าวลงไปชั้นใต้ดินเพื่อทำการตรวจหาเชื้อ นอกจากนี้ มีภาพถ่ายจากสนามบินขณะที่เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยรวมกลุ่มกันโดยไร้การเว้นระยะทางสังคมขณะมุ่งหน้าไปศูนย์ตรวจหาเชื้อในสถานที่ที่จัดให้
AP
ทั่วเมืองจีนมีการตรวจหาเชื้อหลายล้านคน พร้อมล็อกดาวน์และปิดโรงเรียน ภายหลังพบผู้ติดเชื้อในสามเมืองเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้แก่ เทียนจีน เซี่ยงไฮ้ และ หม่านโจวหลี่ ซึ่งมีการบังคับใช้มาตรการเป็นวงกว้าง ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นลง แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐและประเทศอื่นที่เผชิญการระบาดระลอกใหม่ๆ
AP
ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างเตือนว่า โอกาสที่ไวรัสแพร่กระจายจะมีมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว การระบาดครั้งล่าสุดในจีนแสดงถึงยังมีความเสี่ยงจะไวรัสดังกล่าวจะกลับมาในจีน แม้จะมีการควบคุมเป็นวงกว้างแล้ว
AP
ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศ 2 คน ในนครเซี่ยงไฮ้ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้นครเซี่ยงไฮ้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7 คน จากยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 86,442 คน และเสียชีวิต 4,634 ราย นับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในนครอู่ฮั่นเมื่อปีที่แล้ว
