ยึดวังนายพล สเปนล้างสมบัติเผด็จการฟรังโก เอาเงินหลวงไปซื้อ

ยึดวังนายพล สเปนล้างสมบัติเผด็จการฟรังโก เอาเงินหลวงไปซื้อ

ยึดวังนายพล – รอยเตอร์ รายงาน ว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2563 รัฐบาลสเปนสั่งยึดพระราชวังฤดูร้อนของนายพลฟรันซิสโก ฟรังโก จอมเผด็จการในประวัติศาสตร์ของประเทศ พร้อมสมบัติในวัง และขับไล่ทายาทของนายพลออกจากอาคารดังกล่าว เป็นความพยายามล้างตำนานจอมเผด็จการของสเปน

กอนซูเอโล กาสโตร อัยการรัฐ เดินทางมายังวังดังกล่าว ที่แคว้นกาลิเซีย ภาควันตกเฉียงเหนือของสเปน เพื่อตรวจสอบสถานที่และสิ่งของต่างๆ ภานในวังครั้งสุดท้าย เพื่อเดินหน้ากระบวนการยึดอาหารอย่างเป็นทางการ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาต้อนรับ พร้อมป้ายข้อความว่า “ให้พวกเขาคืนของที่ขโมยไปกลับคืนมา ลัทธิคลั่งไคล้ฟรังโกจะไม่มีอีกต่อไป”

People demonstrate outside Pazo de Meiras, former Spanish dictator Francisco Franco’s summer palace, which is being handed over by Franco’s heirs to the Spanish state in Sada, northwestern Spain, December 10, 2020. Banner reads, “Francoism: No more”. REUTERS/Miguel Vidal

การยึดวังครั้งนี้เป็นปฏิบัติการต่อเนื่องที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลสเปนที่เป็นพรรคฝ่ายซ้าย โดยเมื่อปีก่อน เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายอนุสรณ์สถานของฟรังโก ใกล้กรุงมาดริด รวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในยุคเผด็จการ จนกระทั่งนายพลฟรังโกเสียชีวิตในปี 1975 (พ.ศ. 2518)

วังฤดูร้อนแห่งนี้ชื่อ ปาโซ เด ไมราส Pazo de Meiras สร้างขึ้นช่วงค.ศ. 1893 – 1907 โดยเอมิเลีย ปาร์โด-บาซาน การประเมินราคาเมื่อปีก่อน ระบุว่าวังแห่งนี้มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านยูโร หรือราว 178 ล้านบาท

General view of Pazo de Meiras, former Spanish dictator Francisco Franco’s summer palace, which is being handed over by Franco’s heirs to the Spanish state in Sada, northwestern Spain, December 10, 2020. REUTERS/Miguel Vidal

นายพลฟรังโกเข้าครอบครองวังนี้อย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้เงินบริจาคของประชาชนมาซื้อเมื่อปี 1938 ช่วงเกิดสงครามกลางเมือง ทั้งยังใช้ชื่อตัวเองว่าเป็นเจ้าของอาคารนับจากปี 1941 ใช้เป็นบ้านพักฤดูร้อนอยู่อย่างสำราญ ทั้งที่สงครามตอนนั้นคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 5 แสนราย ช่วงปี 1936-39 อีกทั้งต่อมายังมี 150,000 รายเสียชีวิตด้วยฝีมือรัฐบาลนายพลฟรังโก

ถึงวันนี้ประชาชนยังมีความคิดแตกเป็นขั้ว ถึงตำนานจอมเผด็จการนายพลฟรังโก กว่าจะจบลงก็ต้องรอถึงปี 1975 เมื่อนายพลเสียชีวิตไปเอง

General Francisco Franco (AP)

เมื่อเดือนกันยายน 2563 ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนมือเจ้าของอาคาร จากตระกูลฟรังโกมาเป็นรัฐบาล เนื่องจากการเข้าครอบครองผิดกฎหมาย เพราะนายพลใช้เงินของประชาชนมาซื้อวังเพื่อตัวเอง ดังนั้นญาติที่สืบทอดมาไม่มีสิทธิครอบครองต่อ ขณะที่ญาตินายพลแจ้งว่าจะสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

สำหรับสมบัติในวังที่ศาลมีคำสั่งให้ตรวจสอบ พบว่ามีเกือบถึง 700 ชิ้น ล้วนมีค่าทางประวัติศาสตร์ และทางศิลปะ รวมถึงรูปปั้น 2 ชิ้นจากซานติอาโก เด กอมโปสเตลา และหนังสืออีกถึง 13,000 เล่ม

A Spanish Civil Guard car is parked at the Pazo de Meiras, former Spanish dictator Francisco Franco’s summer palace, which is being handed over by Franco’s heirs to the Spanish state in Sada, northwestern Spain, December 10, 2020. REUTERS/Miguel Vidal

“การส่งมอบวังต้องเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบสมบัติของตระกูลฟรังโก” เอมิลี ซิลบา หัวหน้าสมาคมฟื้นฟูความทรงจำทางประวัติศาสตร์ กล่าว

ด้านนายเบนีโต ปอร์เตลา นายกเทศมนตรีเมืองซาดา ที่ตั้งของวัง กล่าวว่า ต้องปรับแปรวังให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่ออุทิศให้เอมิเลีย ปาร์โด-บาซาน ในฐานะผู้สร้างอาคารขึ้นมา รวมทั้งยังเป็นนักเขียน นักบุกเบิกในหลายสาขา และเคยเป็นบุคคลที่ถูกคนเข้าใจผิดตอนมีชีวิตอยู่

……………..

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นายพลฟรังโก : ทำไมสเปนต้องย้ายที่ฝังศพจอมเผด็จการหลังตายไปแล้ว 44 ปี