มาเลย์พบอีก “โควิดกลายพันธุ์” คล้ายเชื้อในแอฟริกาใต้-ออสเตรเลีย-เนเธอร์แลนด์!
มาเลย์พบอีก “โควิดกลายพันธุ์” – วันที่ 24 ธ.ค. เอเชียนิวส์เน็ตเวิร์ก และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียว่า ตันสรี นายแพทย์นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย แถลงพบผู้ป่วยติดไวรัสโควิดกลายพันธุ์ใน รัฐซาบาห์
โดยเชื้อโควิดชนิดใหม่ที่พบถูกเรียกว่า “A701B” มีลักษณะคล้ายคลึงกับโควิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ เบื้องต้นกำลังเร่งตรวจสอบเชื้อและยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าโควิดกลายพันธุ์ที่พบในประเทศชนิดนี้มีอัตราการแพร่ระบาดเร็วกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือไม่
“ไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่เสมอและเราเฝ้าติดตาม รวมถึงวิจัยความเกี่ยวข้องของสายพันธุ์ต่างๆ ที่พบในประชาชน เราตรวจพบการกลายพันธุ์นี้ใน 60 ตัวอย่างที่นำมาจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 คลัสเตอร์เบนเต็ง ลาฮัด ดาตู ในรัฐซาบาห์ เรายังไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์นี้มีระดับการติดเชื้อสูงหรือมีความรุนแรงกว่าปกติหรือไม่” นพ.นูร์ชี้แจง
พร้อมระบุว่ามาเลเซียเคยพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์มาแล้วก่อนหน้านี้คือ D614G ในรัฐเกดะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีอัตราการแพร่ระบาดมากถึง 10 เท่าของโควิดสายพันธุ์หลัก และทำให้รัฐเกดะห์มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียจะไม่หวนบังคับใช้มาตรการแยกกักตัวจาก 10 วันเพิ่มเป็น 14 วัน ท่ามกลางกระแสหวาดผวา ทั้งโควิดกลายพันธุ์ในประเทศ และเชื้อกลายพันธุ์ที่กำลังระบาดหนักในสหราชอาณาจักร
“หากเราดูข้อมูลมาตรการกักตัวของเรา จะเห็นว่าไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่าง 10-14 วันของการแยกเดี่ยวกักตัว ส่วนใหญ่แล้วคนๆ หนึ่งจะเริ่มแสดงอาการภายในสัปดาห์แรก หากระยะกักตัวแค่ 7 วันอาจมีความเสี่ยงสูง แต่จากประสบการณ์ของเรา 10 วันหรือ 14 วันนั้นแทบไม่ต่างกัน” นพ.นูร์กล่าวย้ำ
และว่าในส่วนของผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แม้ผลตรวจจะออกมาเป็นลบแต่จำเป็นต้องกักตัวเอง ส่วนบุคคลที่มีผลตรวจเป็นบวกจะถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อแยกเดี่ยวกักตัวและทำการรักษาต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: