สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์ ปฏิวัติเน็ตดาวเทียมปิงต่ำให้ทั่วโลก

สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์ – วันที่ 19 ม.ค. นาซ่าสเปซไฟลท์รายงานว่า สเปซเอ็กซ์ เอกชนด้านอุตสาหกรรมอวกาศชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เตรียมถ่ายทอดสดการปล่อยดาวเทียมในโครงการสตาร์ลิงค์ เพื่อสร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตดาวเทียมที่มีอัตราการตอบสนองสูงให้ชาวโลก

การถ่ายทอดสดดังกล่าวสามารถติดตามได้ทางแชนแนลของนาซ่าสเปซไฟลท์ในเว็บไซต์ยูทูบตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันที่ 20 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (GMT-5) หรือเวลา 19.00 น. ของวันที่ 20 ม.ค. ตามเวลาประเทศไทย จากศูนย์อวกาศเคเนดี้ รัฐฟลอริดา

 

สตาร์ลิงค์ (Starlink) เป็นโครงการสร้างเครือข่ายดาวเทียมหลายดวงของทางสเปซเอ็กซ์ มีนายอีลอน มัสก์ นักประดิษฐ์และมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ และเทสล่า ผู้พัฒนายนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เป็นผู้ต้นคิด โดยนายมัสก์ ต้องการให้สเปซเอ็กซ์เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตดาวเทียมรายใหม่ของโลก ที่มีจุดเด่นกว่าค่ายอื่นด้วยอัตราการตอบสนองที่สูง (ค่าปิงต่ำ)

สำหรับค่าปิงนั้นเป็นอัตราการตอบสนอง (ยิ่งใกล้ศูนย์ยิ่งดี) ส่วนใหญ่ระหว่างผู้ใช้กับเซิฟเวอร์ของผู้ให้บริการ (ISP) มักมีหน่วยเป็นมิลลิวินาที (ms) โดยหากค่าปิงสูงจะทำให้ความล่าช้าในการที่ข้อมูลจะเดินทางไปมาระหว่างกันช้าลงตามไปด้วย เช่น อาการ Lag ในการเล่นเกมออนไลน์ เป็นต้น

สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์

โดยค่าปิงต่ำซึ่งเป็นความพิเศษของสตาร์ลิงค์นั้น รายงานอธิบายว่าโดยปกติแล้วดาวเทียมของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตดาวเทียมปัจจุบันมีอายุการใช้งานราว 15 ปี อยู่ที่ระดับสูงจากพื้นโลกประมาณ 35,800 กิโลเมตร บริเวณแถบเส้นศูนย์สูตร เรียกว่า ระดับวงโคจรค้างฟ้า (geostationary orbit)

ระดับความสูงดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ค่าปิงของสัญญาณสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 550ms ส่งผลให้ ISP ปัจจุบัน ที่มีบริการอินเตอร์เน็ตดาวเทียมไม่สามารถให้บริการอินเตอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูงได้เหมือนกับสตาร์ลิงค์ที่มาจากแนวคิดของนายมัสก์

สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์

วิธีการที่นายมัสก์คิดแก้ไข คือ การสร้างดาวเทียมหลายพันดวงขึ้นไปไว้บนระดับวงโคจรที่ต่ำลงมา คือราว 550 ก.ม. หรือต่ำกว่านั้น ทำให้ค่าปิงต่ำลง ทั้งยังมีอายุการใช้งานต่ำลงเหลือประมาณ 5 ปี ทำให้อัพเกรดและส่งรุ่นใหม่ขึ้นไปได้บ่อย ผสานกับเทคโนโลยีการปล่อยดาวเทียมที่ประหยัดต้นทุนของสเปซเอ็กซ์ รวมทั้งขนาดที่เล็กของสตาร์ลิงค์ทำให้ส่งขึ้นไปได้ทีละหลายๆ ดวงในการปล่อยครั้งเดียว

ระดับวงโคจรที่ต่ำของสตาร์ลิงค์ยังทำให้การสั่งทำลายดาวเทียมทำได้รวดเร็วกว่าจากเดิมที่ใช้เวลานานหลายปีในการสั่งให้ดาวเทียมลดระดับลงมาและเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลกจนมอดไหม้หมดไป เหลือเพียงเวลาไม่กี่สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้วงโคจรของโลกรก และลดความเสี่ยงของการชนกัน

สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์

บิสิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า การปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ถือเป็นครั้งที่ 17 แล้วจากทั้งหมดที่นายมัสก์ตั้งเป้าไว้ถึง 42,000 ดวง โดยจรวดส่งดาวเทียมรุ่นฟัลคอน-9 ที่ทางสเปซเอ็กซ์คิดค้นขึ้นนั้นสามารถร่อนกลับมาเพื่อนำไปใช้ใหม่ได้ ช่วยให้ประหยัดต้นทุนค่าจรวด ส่วนการส่งครั้งหนึ่งๆ นั้นสามารถส่งดาวเทียมสตาร์ลิงค์ได้ทีละ 60 ดวง

ขณะที่สเปซ.คอมรายงานว่า ปัจจุบัน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงค์อยู่ในวงโคจรของโลกแล้วกว่า 1,000 ดวง และอยู่ในช่วงทดสอบการให้บริการอินเตอร์เน็ตดาวเทียมเฉพาะในสหรัฐ ภาคใต้ของแคนาดา และบางพื้นที่ของทวีปยุโรปด้วยแบนด์วิธ (อัตราการส่งข้อมูล) 200 เมกะบิตต่อวินาที

สเปซเอ็กซ์ไลฟ์ปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์

โดยโครงการทดสอบนั้นอนุญาตให้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสตาร์ลิงค์ ภายใต้ชื่อโครงการแฝงอารณ์ขันของนายมัสก์ว่า “Better Then Nothing Beta” หรือแปลว่า ดีกว่าไม่มี(เน็ตใช้) เบต้า มีค่าเราเตอร์ และเทอร์มินัลดาวเทียม 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 15,000 บาท และค่าบริการรายเดือน 99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 300 บาท

ผลการทดสอบของผู้ร่วมโครงการเบื้องต้นพบว่า สามารถทำอัตราการส่งข้อมูลได้มากกว่าเท่ากับ 100 mbps ด้วยค่าปิงราว 20-40ms ซึ่งดีกว่าอินเตอร์เน็ตดาวเทียมของค่ายอื่นอย่างมาก

ทั้งนี้ การปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงค์ที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นการปล่อยจรวดครั้งที่ 2 ในปีนี้ของสเปซเอ็กซ์ ภายใต้ชื่อภารกิจ Starlink v1.0 L16 โดยสเปซเอ็กซ์จะปล่อยดาวเทียมให้ได้ 48 ครั้งใน 2564 หลังปล่อยไปถึง 25 ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน