อังกฤษจำคุกระนาว – วันที่ 23 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า ศาลอาญากลางของอังกฤษและเวลส์พิพากษาจำคุกผู้ต้องหา 4 คน ในความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หลังลักลอบขนแรงงานคนเวียดนาม 39 ราย แต่เสียชีวิตในรถพ่วงบรรทุก ที่มณฑลเอสเซกซ์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมื่อปลายเดือนต.ค. 2562
จำเลยประกอบด้วย นายโรนัน ฮิวจ์ส อายุ 41 ปี และ นายเกออร์เก นีกา อายุ 43 ปี ผู้นำวางแผนลักลอบขนคนเข้าเมือง ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี และ 27 ปี ตามลำดับ
ขณะที่คนขับรถบรรทุก 2 คน ได้แก่ นายเอมอนน์ แฮร์ริสัน อายุ 24 ปี ผู้ขับรถพ่วงบรรทุกไปท่าเรือเมืองเซบรึคเคอ ทางเหนือของเบลเยียม ก่อนนำคนเวียดนาม 39 ชีวิต เดินทางมาอังกฤษ ถูกตัดสินจำคุก 18 ปี ส่วน นายมอริซ โรบินสัน อายุ 26 ปี ผู้รับรถพ่วงมาเปิดและพบผู้เสียชีวิต ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี 4 เดือน
นอกจากนี้ สมาชิกอีก 3 คน ในกลุ่มต่างถูกพิพากษาจำคุกในข้อหาสมร่วมรู้คิดอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้แก่ นายคริสโตเฟอร์ เคนเนดี อายุ 24 ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี นายวาเลนติน คาโลตา อายุ 38 ปี ถูกตัดสินจำคุก 4 ปีครึ่ง และ นายอเล็กซันดรู-โอวีดิว ฮันกา อายุ 28 ปี ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี
ไนเจล สวีนีย์ ผู้พิพากษา ระบุว่า จำเลยทั้งหมดจะอยู่เรือนจำเป็นระยะเวลา 2 ใน 3 ของคำพิพากษา ก่อนได้รับการพักโทษ จากปกติที่จะอยู่ในเรือนจำเป็นระยะเวลากึ่งหนึ่งของคำพิพากษา และว่าการวางแผนดังกล่าวมีความซับซ้อน ดำเนินมาอย่างยาวนาน และสร้างผลกำไร จากการลักลอบขนแรงงานที่เป็นคนเวียดนามส่วนใหญ่ ข้ามทะเลระหว่างสองประเทศ
Advertisement
ผู้พิพากษาสวีนีย์กล่าวถึงการเดินทางมรณะของคนลักลอบเข้าเมืองว่า อุณหภูมิเพิ่มขึ้นพร้อมกับระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 40 องศาเซลเซียส เมื่อตู้คอนเทนเนอร์มาถึงชายฝั่งอังกฤษเมื่อ 22 ต.ค. 2562
“เหยื่อทั้งหมดพยายามอย่างยิ่งที่จะติดต่อกับโลกภายนอกทางโทรศัพท์และทำลายหลังคาตู้คอนเทนเนอร์แต่ไม่มีประโยชน์ และก่อนที่เรือจะมาถึงเมืองเพอร์ฟลีต เหยื่อทั้งหมดเสียชีวิตด้วยความตายทรมานแสนสาหัส” ผู้พิพากษาสวีนีย์กล่าว
เหยื่อทั้งหมดใช้ท่อโลหะพยายามเจาะทะลุหลังคาตู้คอนเทนเนอร์ แต่สุดท้ายได้เพียงเป็นรอยบุ๋มภายใน
การไต่สวนคดีดังกล่าวตรวจสอบกลุ่มจำเลยที่พยายามลักลอบขนคนเข้าเมือง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก วันที่ 11 ต.ค. และครั้งที่สอง วันที่ 18 ต.ค. ประสบความสำเร็จ ยกเว้นครั้งสุดท้าย วันที่ 23 ต.ค. มีคนเสียชีวิต 39 ราย และทั้ง 3 ครั้ง นายนีกาเป็นคนจัดหารถยนต์และรถตู้ขนส่งคนลักลอบเข้าเมืองมาปลายทางที่อังกฤษ
ในการลักลอบขนคนครั้งที่สาม นายแฮร์ริสัน คนขับรถบรรทุก อ้างว่าไม่รู้ว่ามีคนในรถพ่วงบรรทุก ขณะขับรถพ่วงบรรทุกไปท่าเรือเซบรึคเคอของเบลเยียม เพื่อรับคนเวียดนาม 39 มา ส่วนนายโรบินสันรับรถพ่วงบรรทุกที่มาถึงชายฝั่งอังกฤษ หลังเข้าสู่เที่ยงคืนวันที่ 23 ต.ค. 2562
จากนั้น นายโรบินสันได้รับข้อความจากนายฮิวจ์ส ผู้นำวางแผนลักลอบขนคนเข้าเมือง ว่า “รีบให้อากาศเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ อย่าให้คนออกไป” นายโรบินสันจึงส่งเครื่องหมาย “ถูกใจ” เป็นการตอบกลับ
เมื่อนายโรบินสันนำรถพ่วงบรรทุกมาที่นิคมอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ไม่ไกล เพื่อเปิดตู้คอนเทนเนอร์จึงพบว่าคนลักลอบเข้าเมืองเสียชีวิตทั้งหมด จากนั้น โทรศัพท์หลายครั้งเพื่อแจ้งให้นายนีกาและนายฮิวจ์สทราบ ก่อนโทรศัพท์หมายเลขฉุกเฉินในที่สุด
ทั้งนี้ นายฮิวจ์สยอมรับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ส่วนนายนีกาและนายแฮร์ริสันถูกคณะลูกขุนตัดสินมีความผิดข้อหาดังกล่าว
ผู้พิพากษาสวีนีย์กล่าวว่า แม้ว่านายฮิวจ์สจะไม่ใช่ผู้นำสูงสุดของการวางแผน แต่บทบาทของจำเลยเป็นหัวใจสำคัญจากการทำธุรกิจขนส่งสินค้าและจัดหารถพ่วงบรรทุกและคนขับรถพ่วงเพื่อลักลอบขนคนเข้าเมือง
ขณะที่นายนีกาคัดเลือกและจ้างคนขับรถพ่วงบรรทุกเพื่อรับคนเข้าเมืองที่มาถึงจุดปล่อยในประเทศและขับพาไปกักตัวอยู่ในเซฟเฮ้าส์ จนกว่าคนเข้าเมืองจะจ่ายเงินไถ่ตัวออกไปได้
ส่วนผู้นำสูงสุดของการวางแผนเป็นคนเชื้อสายเวียดนามมีชื่อว่า “ฟ่ง” อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: