สตีเวน บรันเดนเบิร์ก เภสัชกรวัย 46 ปี จากวิสวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ถูกจับในข้อหาทำลายวัคซีนโมเดอร์นา 57 ขวด หรือจำนวน 570 โดส เพราะเขาคิดว่าการระบาดของโรคที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงที่สร้างขึ้นเท่านั้น
เจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าเภสัชกรรายนี้ได้นำวัคซีน 570 โดสออกจากตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาวัคซีนที่ศูนย์การแพทย์ออโรรา ในเมืองกราฟตัน ที่เขาทำงานกะกลางคืน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำลายประสิทธิภาพของยา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนที่เสื่อมสภาพจากการกระทำของนายแบรนเดนเบิร์ก ไปอย่างน้อย 57 คน
จากนั้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาบรันเดนเบิร์กก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในที่สุด ทั้งนี้เขามีความเชื่อว่าวัคซีนป้องกันโควิดนี้เป็น ‘ไมโครชิป’ ทั้งยังจะปิดกั้นการคุมกำเนิดของผู้คนบางส่วน และจะทำให้ผู้คนอีกบางส่วนมีบุตรยากขึ้น ในการให้สัมภาษณ์กับ FBI ของ ซาราห์ สติกเกอร์ เพื่อนร่วมงานของบรันเดนเบิร์ก ได้เกิดเผยว่าเขาได้พูดกับเธอหลายครั้งว่าเขาไม่เชื่อว่าโคโรนาไวรัสนั้นเป็นของจริง
และรายงานได้ระบุว่า “ทฤษฎีสมคบคิดบางส่วนที่บรันเดนเบิร์กบอกกับสติกเกอร์นั่นมีตั้งแต่ โลกแบน ท้องฟ้าไม่ใช่ของจริง มันเป็นแค่เพียงเกราะป้องกันที่รัฐบาลสร้างขึ้นเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนคนอื่นมองเห็นพระเจ้า และวันพิพากษากำลังจะมาถึงในไม่ช้า”
ทั้งนี้ภรรยาของบรันเดนเบิร์กที่ฟ้องหย่าเมื่อกลางปีที่แล้ว หลังแต่งงานกัน 8 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ให้ข้อมูลว่าเขาเก็บอาหารจำนวนมากและปืนไว้ในสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง เพราะเขาเชื่อว่ารัฐบาลกำลังวางแผนที่จะโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์กริด ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เธอกลัวมาก ก่อนจะพาลูก ๆ ออกจากเมืองไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
จากการกระทำดังกล่าวเขาอ้างว่าเป็น ‘การกระทำตามสัญชาตญาณ’ และบอกว่าเข้าไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา หลังจากนั้นเขาได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเขาไม่ไว้วางใจวัคซีนโมเดอร์นาและเขาเชื่อว่ามันอาจเป็นอันตรายต่อผู้คน
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับอีเมลสารภาพจากบรันเดนเบิร์ก ว่าเขานำวัคซีนออกจากตู้เย็นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้วัคซีนอยู่นอกช่วงอุณหภูมิเพื่อที่จะไม่ได้ผล “การกระทำของฉันไม่สามารถแก้ไขได้และฉันขอโทษอย่างสุดซึ้งสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น” อย่างไรก็ตามบรันเดนเบิร์กมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ และเขาอาจจะต้องรับโทษ จำคุกนานถึง10 ปีและปรับ 250,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 7.5 ล้านบาท) สำหรับแต่ละข้อหา
ที่มา : ladbible
