เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เดลี่เมล์รายงานว่านักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันพบตัวประหลาดบริเวณชายฝั่งห่างไกลความเจริญในรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา ระหว่างการพายเรือคายัคที่อ่าวเบอร์เนอร์ และเชื่อว่าอาจจะเป็นฉลามชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกและไม่ค่อยมีมนุษย์พบเห็นมากนัก

จากซากที่พบ นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าเป็นสัตว์ทะเลใต้ทะเลลึก อย่างฉลามแปซิฟิก สลีปเปอร์ ซึ่งปกติแล้วมีขนาดยาวประมาณ 3.6 เมตร และอาศัยลึกจากผิวน้ำทะเลราว 1.6 ก.ม. นอกจากนี้ยังเป็นอาหารอันโอชะสำหรับปลาหมึกในแปซิฟิกอีกด้วย

นายบียอร์น ดิห์เล ไกด์นำเที่ยวผู้ค้นพบพร้อมกับนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าขณะที่ตนเดินมาที่ชายหาดก็พบกับเครื่องในสัตว์ทะเลชิ้นหนึ่ง ซึ่งใหญ่มาก และดูเหมือนว่าจะเป็นตับที่กำลังเน่าและมีกลิ่นเหม็นคาวปลา

ด้านนายจอห์น โมเรน นักชีววิทยาจากสถาบันสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศ ที่พบพร้อมกับไกด์คนดังกล่าวระบุว่าเครื่องในปลาที่พบนี้เชื่อว่าน่าจะมาจากฉลามแปซิฟิก สลีปเปอร์

“ผมว่ามันไม่ได้มาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรอกครับ ผมว่ามันน่าจะเป็นอัณฑะหรือตับจากฉลามสลีปเปอร์” นายจอห์นกล่าว

แต่ก็มีข้อสงสัยว่าทำไมถึงเหลือแค่ตับของฉลามสลีปเปอร์ที่มาเกยชายหาดอยู่นี้ เชื่อว่าฉลามสลีปเปอร์อาจถูกวาฬเพชรฆาตล่าจนเหลือเป็นเศษ จากนั้นชาวประมงอาจลากซากขึ้นฝั่ง

แต่ข้อกังวลก็ยังมีอยู่ว่าทำไมถึงเหลือแต่ส่วนตับ ประเด็นนี้ นายบียอร์นวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นส่วนที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเป็นอาหาร เนื่องจากฉลามอาจเป็นพิษต่อผู้กินได้หากปรุงหรือชำแหละไม่ถูกวิธี

ทั้งปลาฉลามสลีปเปอร์แปซิฟิก ปกติอยู่ลึกในทะเลลึก และจะขึ้นมาสู่ผิวน้ำในช่วงกลางคืน แต่ก็ไม่ค่อยปรากฎตัวให้มนุษย์เห็นนัก นอกจากนี้ฉลามมักจะหาเศษซากอาหารกินตามพื้นมหาสมุทร และเคลื่อนตัวช้า รวมไปถึงไม่ค่อยมีใครนิยมล่ามาเป็นอาหารมากกนัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน