ผลสอบขั้นต้น – วันที่ 23 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้ากรณีที่เครื่องบิน โบอิ้ง 777 ของสายการบิน ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 328 มุ่งหน้าจากรัฐโคโลราโดไปรัฐฮาวาย แต่ไฟไหม้เครื่องยนต์ฝั่งขวากลางอากาศ และปลอกหุ้มเครื่องยนต์ตกใส่บ้านเรือนในเมืองบลูมฟิลด์ รัฐเดนเวอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. แต่โชคดีที่นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินรัฐเดนเวอร์ได้อย่างปลอดภัยและไม่มีผู้บาดเจ็บ ว่า
การสอบสวนกรณีที่เครื่องยนต์ล้มเหลวซึ่งเป็นของ แพรตต์แอนด์วิตนีย์ (Pratt & Whitney) บริษัทผู้ผลิตการบินและอวกาศสัญชาติอเมริกัน รุ่น พีดับเบิลยู 4000 อาจใช้เวลามากกว่า 1 ปี แต่เจ้าหน้าที่เห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
คณะผู้สอบสวนระบุว่า เครื่องยนต์ล้มเหลวหลายนาทีจนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ตกใส่เบื้องล่างเป็นระยะทางกว่า 1.6 กิโลเมตร และหลังอุบัติเหตุดังกล่าว ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สั่งระงับเครื่องบินโบอิ้งที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นพีดับเบิลยู 4000 ทั้งหมด
การตรวจสอบเบื้องต้นตามข้อมูลของ คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ระบุว่า ความเสียหายของเครื่องยนต์สอดคล้องกับ การล้าของโลหะ (metal fatigue) หรือการที่โลหะรับแรงซ้ำไปซ้ำมา ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางสหรัฐต้องดำเนินการตรวจสอบเครื่องยนต์อีกครั้ง
ทั้ง องค์การบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) และ NTSB กำลังสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าว
รายละเอียดของอุบัติเหตุเที่ยวบิน 328
บันทึกเสียงจราจรทางอากาศจากนักบินเที่ยวบิน 328 ส่งสัญญาณ เมย์เดย์ (Mayday) ระบุว่า “ยูไนเต็ด 238 หนัก เมย์เดย์ เมย์เดย์…ออกจากรัฐเดนเวอร์ เครื่องบินเพิ่งประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ต้องเลี้ยวทันที”
คณะผู้สอบสวนระบุว่า เครื่องยนต์พีดับเบิลยู 4000 มีใบพัด 22 ชิ้น ในจำนวนนี้ ใบพัดอันหนึ่งถูกพบติดอยู่ภายในวงแหวนกักเก็บของเครื่องยนต์ไอพ่น และใบพัดอีกอันถูกพบในสนามฟุตบอลในเมืองบลูมฟิลด์ รัฐโคโรลาโด โดยใบพัดหนึ่งในสองอันดังกล่าวหลุดออกจากดุมล้อของใบพัดในเครื่องยนต์ฝั่งขวาของเครื่องบิน จากนั้น ใบพัดอันดังกล่าวอาจไปกระแทกกับใบพัดอีกอันที่เกิดการหักช่วงกลาง
โรเบิร์ต ซัมวอลต์ ประธาน NTSB กล่าวว่า ความเสียหายดังกล่าวสอดคล้องกับ “ความล้าของโลหะ” ส่วนลำตัวเครื่องบินได้รับความเสียหายต่อชิ้นส่วนประกอบที่ไม่สำคัญซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินมีอากาศพลศาสตร์มากขึ้น
นายซัมวอลต์กล่าวว่า เครื่องยนต์ที่มีปัญหาจะถอดออกจากเครื่องบินเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนใบพัดจะตรวจสอบในวันอังคาร หลังถูกขนย้ายด้วยเครื่องบินไอพ่นเอกชนไปห้องปฏิบัติการของแพรตต์แอนด์วิตนีย์ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าสามารถกำหนดระยะเวลาที่ใบพัดได้รับความเสียหายก่อนจะใช้การไม่ได้ได้
ส่วนสมาชิกในชุมชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่จะได้รับการชดเชยจากยูไนเต็ดแอร์ไลน์ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาสักพัก แต่ สมาคมข้อมูลประกันภัยร็อกกีเมาน์เทน (Rocky Mountain Insurance Information Association) ระบุว่า แผนประกันภัยมาตรฐานส่วนใหญ่ควรครอบคลุม “วัตถุที่ตกลงมาจากท้องฟ้า” ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ระงับบินโบอิ้ง 777 ทั้งหมด หลังเหตุระทึก “ไฟไหม้-ชิ้นส่วนหลุด” กลางอากาศ