หนุ่มแฝดคู่แรกในโลก – วันที่ 24 ก.พ. เอเอฟพี และ เดลีเมล รายงานว่า หนุ่มแฝดแท้ชาวบราซิลเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเป็นคู่แรกของโลก ทำความฝันร่วมกันที่มีมาอย่างยาวนานกลายเป็นความจริง

(ซ้าย) ไมลา ฟีบี เด เฮเซนเจ (ขวา) โซเฟีย อัลบรูเคร์กี

ไมลา ฟีบี เด เฮเซนเจ และ โซเฟีย อัลบรูเคร์กี อายุ 19 ปี จากเมืองจาปีรา รัฐมีนัสเชไรส์ ตอนกลางของประเทศ เข้ารับการผ่าตัด 5 ชั่วโมง ที่คลินิก Transgender Center Brazil ในเมืองบลูเมเนา รัฐซานตากาตารีนา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล แยกกันคนละวันคือ 13 และ 14 ก.พ.

นพ.โชเซ การ์ลูส มาร์ตินส์ ผู้ทำการผ่าตัด กล่าวว่า “นี่เป็นเพียงกรณีเดียวที่มีรายงานในโลกของแฝดที่สันนิษฐานว่าเป็นชายตั้งแต่เกิดเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิงด้วยกัน”

ทั้งคู่เป็นแฝดแท้ โตขึ้นมาและทำอะไรด้วยกัน รวมถึงตัดสินใจเข้ารับการแปลงเพศ สัปดาห์เดียวหลังการผ่าตัด กลายเป็นสาวสวยให้สัมภาษณ์เอเอฟพีทางวิดีโอด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา ขณะแบ่งปันเส้นทางของทั้งคู่

ไมลา ฟีบี เด เฮเซนเจ ในปัจจุบันและวัยเด็ก

ไมลา ซึ่งกำลังเป็นนักศึกษาแพทย์ในอาร์เจนตินา กล่าวว่า “ฉันรักร่างกายมาตลอด แต่ไม่ชอบอวัยวะเพศ จึงเป่าเมล็ดดอกแดนดิไลออนลอยไปในอากาศและขอให้พระเจ้าเปลี่ยนให้ฉันเป็นเด็กผู้หญิง” และว่าเธอร้องไห้เมื่อเห็นเรืองร่างใหม่ของตัวเองหลังผ่าตัดแล้ว

ไมลา ซึ่งหันมาสวมบิกินี่หลังผ่าตัดแปลงเพศ ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นถึงความสุขกับเรือนร่างใหม่ว่า ก่อนถูกวางยาสลบในโรงพยาบาล ยังไม่เชื่อว่าความฝันกำลังจะเป็นจริง

“เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันไม่เชื่อเลย บางอย่างยังจมปลัก ฉันไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อนอนหรือนั่งลงอีกแล้ว ช่างเป็นสิ่งวิเศษจริงๆ การอาบน้ำครั้งแรกหลังออกจากโรงพยาบาลน่าอัศจรรย์จริงๆ” ไมลากล่าว

ส่วนโซเฟีย ซึ่งกำลังเป็นนักศึกษาวิศวกรรมในนครเซาเปาลู สงวนท่าทีมากกว่า แต่ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างชัดเจน จากนั้น แฝดคนสวยแบ่งปันประสบการณ์การทั้งการกลั่นแกล้ง การล่วงละเมิดทางเพศ และความรุนแรงที่ต้องเผชิญทั้งวัยเด็กและวัยรุ่น

โซเฟีย อัลบรูเคร์กี ในปัจจุบันและวัยเด็ก

โซเฟียบอกว่า “เราทั้งคู่อาศัยอยู่ในประเทศเกลียดชังคนข้ามเพศที่สุดในโลก” ขณะที่ไมลาบอกว่า “นักเรียนร่วมชั้นบางคนแม้แต่ปาสมุดใส่หัวฉัน”

สมาคมคนแต่งตัวข้ามเพศและคนข้ามเพศแห่งชาติ (Antra) ของบราซิลระบุว่า คนข้ามเพศ 175 ราย ถูกฆ่าในบราซิลเมื่อปีที่แล้ว สูงสุดกว่าทุกประเทศ เนื่องด้วยบราซิลเป็นที่รู้จักกันดีในวัฒนธรรมแข็งแกร่งของ ความเป็นลูกผู้ชาย (machismo) และ เกลียดชังคนรักเพศเดียวกันอย่างโจ่งแจ้ง (overt homophobia) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำที่มีแนวความคิดขวาจัด

ทั้งคู่จึงยังต้องเผชิญกับรอยแผลจิตใจในวัยเด็กที่ยากลำบากจนถึงวันนี้ด้วยความกลัวการถูกล่วงละเมิด แต่ครอบครัวให้การสนับสนุนเสมอมา และแม้ว่าพ่อแม่จะไม่กลัวสิ่งที่ลูกเป็นแต่ยังกลัวคนอื่นจะมาทำร้ายลูกอยู่ดี

นอกจากนี้ ปู่เป็นคนนำทรัพย์สินส่วนตัวมาประมูลเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าผ่าตัดแปลงเพศ 100,000 เรอัลบราซิล หรือกว่า 550,000 บาท ให้หลานแฝดด้วย

ไมลาเผยขั้นตอนก่อนการผ่าตัดว่า ทั้งคู่ได้รับการติดตามต่อเนื่องจากแพทย์ 4 ปี และได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน ซึ่งเป็นขั้นตอนทั้งหมดที่เธอแนะนำให้ผู้หญิงข้ามเพศทุกคนทำตาม

ไมลา เฮเรนเจ ใช้นามสกุลของบิดา ส่วนโซเฟีย อัลบรูเคร์กี ใช้นามสกุลของปู่ เดิมวางแผนบินมาผ่าตัดแปลงเพศถึงประเทศไทย แต่มาเจอคลินิก Transgender Center Brazil ซึ่งเปิดในปี 2558 ก่อน

ส่วนระบบบริการสาธารณสุขบราซิลแม้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายการผ่าตัดแปลงเพศตั้งแต่ปี 2554 แต่มีเฉพาะโรงพยาบาลรัฐเพียง 5 แห่ง และมีคิวยาว

“เป้าหมายของฉันตอนนี้คือจบการศึกษาแพทยศาสตร์และซื้อบ้านอีกหลังให้ปู่ย่าเป็นการตอบแทนบุญคุณ” ไมลากล่าว

ด้าน นางมารา ลูเซีย ดา ซิลวา ผู้เป็นแม่วัย 43 ปี อาชีพเลขาธิการโรงเรียน และยังมีลูกสาวอีก 2 คน เผยว่า เธอรู้สึกโล่งใจที่ลูกแฝดเป็นผู้หญิงข้ามเพศ และจำได้ตอนพาไปพบแพทย์และนักจิตวิทยาตั้งแต่เด็ก

“ฉันจำไม่ได้แม้แต่คิดว่าพวกเขาเป็นเด็กผู้ชาย สำหรับฉันแล้ว พวกเขาเป็นเด็กผู้หญิงเสมอ ฉันรู้ในใจมาตลอดว่าพวกเขาเด็กผู้หญิงแลทุกข์ทรมาน ฉันเสียใจที่ไม่เคยให้ตุ๊กตาหรือชุดกระโปรงลูกแฝด ไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้นเมื่อเป็นเด็กผู้หญิง” ผู้เป็นแม่กล่าว

แต่แฝดข้ามเพศกลัยบอกว่า แม่เป็นแรงสนับสนุน ทุกครั้งที่คนนอกบ้านทำอะไรไม่ดี สิ่งแรกคือกลับบ้านไปบอกแม่และให้แม่กอด “เธอเหมือนนางสิงห์ ปกป้องพวกเราอย่างองอาจเสมอ”

ไมลา ฟีบี เด เฮเซนเจ

ไมลาหวังด้วยว่าประสบการณ์ของพวกเธอจะช่วยให้การแปลงเพศในบราซิลเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้หญิงข้ามเพศจำนวนมากต้องยอมแพ้ เพราะคิวของโรงพยาบาลรัฐยาวเกินไป และเมืองบลูเมเนามีคลินิกแปลงเพศของเอกชนเพียงแห่งเดียว

“ฉันภูมิใจที่ได้เป็นผู้หญิงข้ามเพศ ฉันอยู่ในความหวาดกลัวสังคมมานานเกินไป ตอนนี้ฉันขอความเคารพ” ไมลากล่าวและเก็บรูป นักบุญเซบาสเตียน ผู้พลีชีพเพื่อศาสนาคริสต์ ไว้กับตัวตลอดเวลา

โซเฟีย อัลบรูเคร์กี

ส่วนโซเฟียนับถือศาสนาเช่นกัน เชื่อว่า “พระเจ้าสร้างวิญญาณไม่ใช่เรือนร่าง ฉันต้องการช่วยให้คนเห็นว่าเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน”

ไมลาทิ้งท้ายด้วยว่า พวกเธอหวังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง อยากเป็นแม่รับเลี้ยงลูกบุญธรรม และต้องการช่วยเหลือคนข้ามเพศต่อสู้เพื่อความฝันและความไม่ย่อท้อของพวกเขาด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ฉลองวันเกิดแฝด8 วัย12แล้ว แม่อเมริกันปลื้มลูกๆ ทั้ง 14 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน