ลอยเคว้งกลางทะเล 16 ชม. – ลอยเคว้งกลางทะเล 16 ชม. – วันที่ 23 ก.พ. สตัฟฟ์ รายงานชะตากรรมทรหดของลูกเรือชาวลิทัวเนีย ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่ในทะเลทั้งหมด 16 ชั่วโมง หลังตกจากเรือสินค้าลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อเช้ามืด แต่ในที่สุดสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยการเกาะ “ขยะทะเลเพียงชิ้นเดียว”

ลอยเคว้งกลางทะเล

นายวาดิม เปเรเวียร์ตีลอฟ อายุ 52 ปี เป็นหัวหน้าวิศวกรของเรือสินค้า ซิลเวอร์ ซัพพอร์เตอร์ (Silver Supporter) ซึ่งขนส่งเสบียงเป็นประจำระหว่างท่าเรือเมือง ทัวรังกา ของ นิวซีแลนด์ และ หมู่เกาะพิตแคร์น ดินแดนโพ้นทะเลของ อังกฤษ

นายวาดิมตกลงไปในทะเลเย็นเฉียบและมืดสนิทเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ. โดยไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ จึงต้องพยายามประคองตัวเองให้ลอยอยู่ในน้ำได้ขณะที่เรี่ยวแรงเริ่มหมดลง ส่วนความหวังริบหรี่ลงเช่นกันขณะที่เรือสินค้าแล่นออกไปโดยไม่รู้เลยว่าลูกเรือคนหนึ่งหายตัวไป

กระทั่งดวงอาทิตย์ทอแสง ขวัญกำลังใจของลูกเรือคนนี้กลับมาอีกครั้ง นายวาดิมสังเกตจุดสีดำเล็กๆ บนขอบฟ้าจากระยะไกล จึงเริ่มว่ายน้ำมาราธอนเพื่อไปหาเป้าหมาย ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ช่วยชีวิตของนายวาดิมอย่างแท้จริง

กะลาสีตกเรือ

เรื่องราวเหลือเชื่อได้รับการถ่ายทอดจาก นายมารัต ผู้เป็นลูกชาย ซึ่งติดต่อกับพ่อตลอดเวลาตั้งแต่พ่อตกลงไปในทะเล

“พ่อมองเห็นจุดสีดำบนขอบฟ้าที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร จึงเริ่มว่ายน้ำเข้าหาจุดสีดำด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเอาชีวิตรอด แต่ก่อนหน้านั้น พ่อยังลอยอยู่ในน้ำกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น หากเป็นผมอาจจมน้ำตายทันที แต่พ่อยังดูแลตัวเองแข็งแรงและสุขภาพดีสม่ำเสมอ จึงเป็นเหตุผลที่ผมคิดว่าพ่อสามารถรอดมาได้” นายมารัตกล่าว

ลูกชายกะลาสีเล่าว่า พ่อออกเวรกะดึกเฝ้าห้องเครื่องสูบเชื้อเพลิงของเรือ หลังจากนั้น เริ่มรู้สึกร้อนและวิงเวียน จึงเดินออกไปบนท้ายดาดฟ้าเรือเพื่อให้ร่างกายดีขึ้น “แต่จำไม่ได้ว่าตกน้ำ ตอนนั้นน่าจะเป็นลม”

อย่างไรก็ตาม กว่าที่ทางเรือสินค้าจะสังเกตว่า นายวาดิมหายตัวไป เวลาผ่านไปตั้ง 6 ชั่วโมงแล้ว จึงส่งสัญญาณเตือนและนับจำนวนลูกเรือทั้งหมดด้วยมือ พบว่าลูกเรือหายไป 1 นาย

ขณะที่บันทึกการทำงานเผยข้อมูลล่าสุดของนายวาดิมตอนกรอกข้อมูลรายงานการทำงานหลังออกกะดึกเมื่อ 04.00 น. และพิกัดของเรือในเวลานั้นอยู่ห่างจากหมู่เกาะออสตราเลของ เฟรนช์พอลินีเชีย ดินแดนโพ้นทะเลฝรั่งเศส ไปทางใต้ 400 ไมล์ทะเล (740 กิโลเมตร)

กัปตันจึงหันเรือกลับไปและส่งวิทยุแจ้งเหตุฉุกเฉิน และส่งพิกัดตำแหน่งเรือไป ศูนย์ประสานงานกู้ภัยร่วม บน เกาะตาฮีตี ของเฟรนช์พอลินีเชีย ซึ่งแจ้งเหตุร้ายไปถึงบรรดาเรือในพื้นที่ด้วย

ต่อมา เมเตโอ-ฟรองซ์ (Météo-France) อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฝรั่งเศส ได้ยินสัญญาณเหตุร้ายและให้ความช่วยเหลือโดยการคำนวณความเป็นไปได้ว่าลูกเรือจะลอยไปทิศทางไหน จากนั้น เครื่องบินกองทัพเรือฝรั่งเศส ประจำเฟรนช์พอลินีเชีย ไปช่วยค้นหาลูกเรือด้วย

ภาพประกอบ

หันกลับมาที่นายวาดิม ซึ่งว่ายน้ำทางไกลไปถึงจุดสีดำแล้ว ปรากฏว่าจุดสีดำน้ำเป็น ทุ่นตกปลาเก่าๆ ซึ่งไม่ได้ทอดสมอกับเรือหรืออะไร แม้จะเป็นขยะทะเล แต่ลอยน้ำได้ นายวาดิมจึงเกาะทุ่นตกปลาเพื่อทุ่นแรง

แต่ปัญหาถาโถมเข้ามาอีก เมื่อถูกแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องจนแผดเผาผิวหนังและแสบคอ ถึงอย่างนั้น นายวาดิมไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจาก “อดทนรอ” เฝ้าดูขอบฟ้าที่เคยมืดมิดตอนเช้ามืด และหวังว่าเรือสักลำจะมาถึงก่อนที่ดวงอาทิตย์ตก

กระทั่งเรือลำหนึ่งปรากฏบนขอบฟ้า เป็นเรือซิลเวอร์ ซัพพอร์เตอร์ นายวาดิมจึงโบกมือให้และตะโกนเรียกเรือลำนั้นทันที

“สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นแทบจะไม่สามารถอธิบายได้ เรือซิลเวอร์ซัพพอร์ตกำลังค้นหาพ่อผม และลูกเรือคนหนึ่งบนเรือบอกว่าได้ยินเสียงคนตะโกนอย่างอ่อนแรงมาจากด้านขวาของเรือ” นายมารัตถ่ายทอดบทสนทนาของพ่อ

ลูกชายกะลาสีเล่าเพิ่มเติมว่า กัปตันตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา แต่ 10 นาทีต่อมา ยังไม่พบอะไรเลย จึงหันเรือกลับไปเส้นทางการค้นหาเดิม และระหว่างทาง ลูกเรือคนหนึ่งสังเกตคนยกมือขึ้นเหนือผิวน้ำทะเล ทางเรือจึงแล่นมาข้างๆ โยนห่วงชูชีพให้พ่อ กางบันไดลงไปในน้ำ จากนั้น ลูกเรือคนหนึ่งดึงพ่อกลับขึ้นเรือ

“พ่อดูแก่กว่าวัย 20 ปี และเหนื่อยมาก แต่ยังมีชีวิตอยู่ และเหลือเชื่อที่มีคนได้ยินเสียงพ่อ” นายมารัตกล่าว และฝากความขอบคุณจากสองพ่อลูกไปถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนที่ช่วยให้ครอบครัวไม่ต้องพบกับโศกนาฏกรรม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ลอยคว้าง 49 วัน หนุ่มยังชีพบนกระท่อมหาปลา ลมแรงพัดออกกลางทะเล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน