วันเดียวเกือบ20ศพ ! ประณามพม่ายิงกระสุนจริงใส่ฝูงชน ตายสูงสุด
วันเดียวเกือบ20ศพ – วันที่ 1 มี.ค. เอพี รายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เผยตัวเลขสะเทือนขวัญ มีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเสียชีวิตถึง 18 ราย จากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เป็นจำนวนผู้ชุมนุมที่ถูกคร่าชีวิตมากที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่มีการประท้วงมาเกือบ 1 เดือน
สถานการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงขั้นสุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อยิงใส่ฝูงชนด้วยกระสุนจริงในหลายเมือง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บาดเจ็บอีก 30 คน คาดว่ามีผู้ถูกจับกุมอีกราว 1,000 คน
“การเสียชีวิตตามรายงานนี้เป็นผลมาจากการยิงกระสุนจริงใส่ฝูงชน ที่นครย่างกุ้ง เมืองทวาย เมืองมัณฑะเลย์ เมืองมะริด เมืองพะโค และเมืองปะโคกู” เจ้าหน้าที่ยูเอ็นระบุ
ข้อมูลตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับของกลุ่มเสียงประชาธิปไตยพม่า รายงานเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 ก.พ. ว่ามีผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย ใน 9 เมือง และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 10 รายที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพราะการนับจำนวนผู้สูญเสียให้แน่ชัดทำได้ยากมากเนื่องจากไม่มีข้อมูลจากฝ่ายรัฐบาลเลย
นอกจากใช้กระสุนจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ยังใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดมือ และระเบิดแฟลช สลายการชุมนุมที่ดำเนินต่อเนื่องมานาน นับจากกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.
ด้านนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามการปราบปรามครั้งนี้ ที่ใช้อาวุธร้ายแรงเอาชีวิตผู้ชุมนุมประท้วงโดยสันติ ส่วนการจับกุมตามอำเภอใจก็เป็นเรื่องที่รับไม่ได้
“ท่านเลขาธิการใหญ่ของให้ประชาคมโลกร่วมกันส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อรกองทัพเมียนมาว่า จำเป็นต้องเคารพความต้องการของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง และต้องยุติการกดขี่ได้แล้ว” นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นกล่าว
ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศ ประณามว่าการปราบปรามใช้ความรุนแรงที่น่ารังเกียจ สหรัฐจะผลักดันการดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้กำลังต่อต้านพลเรือนในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง และขอยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนชาวพม่าผู้กล้า สหรัฐขอเรียกร้องให้ทุกประเทศรวมใจเป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนเจตจำนงของชาวเมียนมา
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงประณามเช่นกันและยืนยันว่าอียูจะเดินหน้าตอบสนองด้วยการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ความรุนแรงไม่อาจสร้างความชอบธรรมให้กับการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย การยิงประชาชนผู้ไร้ซึ่งอาวุธเป็นการบ่งชี้ว่ากองกำลังความมั่นคงเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด และจำต้องถูกดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี แถลงเรียกร้องให้ทางการเมียนมา ปล่อยตัวนักข่าวของเอพี ชื่อ เธียน จอ ออกมาโดยทันที หลังจากจับกุมไปตั้งแต่เช้าวันเสาร์ที่ 27 ก.พ. เพราะนักข่าวอิสระต้องได้รับอนุฯาตให้รายงานข่าวอย่างเสรีและปลอดภัย โดยไม่ต้องหวาดกลัวผลที่จะตามมา
ด้านสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมียนมา แถลงประณามการจับกุมนักข่าวของทางการเมียนมาด้วยเช่นกัน
//////
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :