สาวท้อง 7 เดือนติดโควิด หมอบอกไม่น่ารอด ตัดสินใจผ่าคลอด ก่อนรอดปาฏิหาริย์
เอมิลี บราวน์ คุณแม่วัย 30 ปี และจอร์ช วัย 36 ปี แต่งงานกันในปี 2561 และมีลูกชายวัย 6 ขวบด้วยกันแล้ว ซึ่งในเดือนมีนาคมปี 2563 เธอและจอร์ชก็ต้องตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อเธอพบว่าตนเองนั้นกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในชนบทของรัฐเทนเนสซี ในตอนแรกที่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโคโรนานั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ร้ายแรง และเธอก็คิดว่าอีกสักพักการแพร่ระบาดก็คงจบ
พวกเขาดำเนินชีวิตตามปกติ และไม่ได้สวมหน้ากากหรือเว้นระยะห่างทางสังคมใด ๆ เนื่องจากนักการเมืองท้องถิ่นไม่ได้มีข้อจำกัดหรือมีมาตรการใด ๆ ในท้องถิ่น และเมื่อเธอมีอายุครรภ์ได้ 28 สัปดาห์เธอก็รู้ว่าทารกที่อยู่ภายในท้องของเธอนั้นเป็นเด็กผู้ชาย เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งชื่อเขาว่า “ทักเกอร์”
หลังจากนั้นเธอและครอบครัวก็ไปเฉลิมฉลองกันที่ร้านบาร์บีคิว และเธอก็เริ่มตระหนักได้ว่าเธอไม่สามารถลิ้มรสหรือกลิ่นอะไรได้เลย เมื่อเธอทราบว่านี่เป็นอาการของโควิดในวันรุ่งขึ้นเธอจึงไปโรงพยาบาลก่อนจะทราบผลว่าเธอติอเชื้อโควิด-19 เธอพยายามปลอบใจว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่หลายวันต่อมาอาการของเธอก็แย่ลง เอมิลีมีไข้และหายใจลำบากทำให้เธอต้องกลับไปยังโรงพยาบาลอีกครั้ง
เมื่อพยาบาลตรวจร่างกาย และนำเครื่องออกซิเจนเข้ามาเธอก็กังวลมากยิ่งขึ้นว่าจะเสียลูกไปหรือไม่ หลังจากนั้นไม่กี่วันเธอก็อยู่ในอาการโคม่าจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ได้บอกกับครอบครัวของเธอว่าเธออาจจะไม่รอด และอยากให้รักษาชีวิตของเด็กน้อยวัย พวกเขาจึงได้ทำการผ่าคลอดฉุกเฉินเด็กชายทักเกอร์ออกมาก่อนกำหนดถึง 7 สัปดาห์
จนในที่สุดอาการของเอมิลีก็ดีขึ้น เธอสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ แต่เธอจะต้องเจาะคอและใส่ท่อเพื่อทำให้เธอกลับมาหายใจได้ดีอีกครั้ง “ลืมตาขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย ฉันพยายามคิดและหาเหตุผล ฉันรู้สึกมึนงง สับสน และมีท่อติดอยู่ที่คอของฉันด้วย” เอมิลีกล่าว
ในตอนนั้นเธอคิดว่าเวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน แต่ในความเป็นจริงมันผ่านมาสามสัปดาห์แล้วจากนั้นเธอก็เห็นรูปถ่ายของทารกแรกเกิดบนผนัง ในตอนนั้นเธอเอื้อมมือสัมผัสเข้าที่ท้องของตัวเอง และเธอก็ทราบในทันทีว่าเด็กในภาพคือลูกของเธอ เธอแอบรู้สึกเสียใจเล็ก ๆ ที่พลาดช่วงเวลาแรกกับลูกไป ซึ่งครั้งแรกที่เธอได้เจอลูกนั้นมันทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก “เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ทัคเกอร์และฉันยังมีชีวิตอยู่ และมีสุขภาพที่แข็งแรง” เอมิลีกล่าว
ที่มา : thesun
