ชาวนาขายบะหมี่14บาท ทำใจดังยั้งไม่อยู่ บล็อกเกอร์แห่เข้าหมู่บ้านชนบท
ชาวนาขายบะหมี่14บาท – เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียที่ทำให้ชาวนาในหมู่บ้านชนบทจีน กลายเป็นคนดังทะลุฟ้า จากการขายบะหมี่ราคาประหยัด เพียงชามละ 3 หยวน หรือราว 14 บาท ผู้คนแห่เข้าหมู่บ้านไม่ขาดสาย
เฉิง หยุนฟุ อายุ 39 ปี หรือที่แฟนๆ ออนไลน์เรียกว่า “พี่บะหมี่” กลายเป็นดาวดังเมื่อเดือนที่แล้ว จากวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย จากคลิปบันทึกนาทีที่เฉิงขายบะหมี่ชามละ 3 หยวน ซึ่งปกติเจ้าตัวขายแบบนี้มานาน 15 ปีแล้วที่ตลาดเขตเฟยเซียน มณฑลชานตง ภาคตะวันออก
เฉิงบอกว่าตรึงราคา 3 หยวนไว้ เพราะถ้าไปขึ้นราคา คนในหมู่บ้านก็คงกินไม่ได้ ถ้าคนมีเงินน้อยก็ใช้วิธีลดเส้นลง ดีกว่าปล่อยให้คนหิว
คลื่นฝูงชนรุมล้อมพี่เฉิง / South China Morning Post Handput
“ถ้าทุกคนรวยเมื่อไหร่และมีโชคแล้ว ผมก็ค่อยขึ้นราคาก็ได้นี่นะ” เฉิงกล่าวให้กล้อง และคลิปนี้กลายเป็นคลิปโด่งดังมีผู้คลิกชมกว่า 200 ล้านวิว เพราะโดนใจผู้ชมที่เฉิงพูดซื่อๆ และมีน้ำใจ
ต่อมาบรรดาวิดีโอ บล็อกเกอร์ จากทั่วสารทิศ รวมถึงคนที่ชมคลิปแล้วถูกใจอยากกินบะหมี่ 3 หยวนก็แห่ไปยังหมู่บ้านหม่าตี้เหอ เพื่อไปถ่ายทำเฉิงปรุงบะหมี่ขาย และขอถ่ายรูปด้วย ทำให้ต้องต่อคิวกันยาวเหยียด รอกันเป็นชั่วโมง
บล็อกเกอร์ถ่ายไลฟ์ไม่หยุด
ตอนแรกเฉิงอึดอัดมากที่ชื่อเสียงทำให้ชีวิตเปลี่ยน มีพวกบล็อกเกอร์รุมล้อมถึงขั้นปีนกำแพงไลฟ์สด ในหมู่บ้านเล็กๆ ถนนก็แคบ จนเฉิงสูญเสียความเป็นส่วนตัว ถึงขั้นทำบะหมี่ต่อไม่ได้ แถมยังขอไปหลบในบ้านญาติช่วงกลางคืน
“ผมไม่ต้องการดังแบบนี้ มันทำให้ผมยุ่งยากมากเลย ผมเป็นแค่ชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำบะหมี่ขาย แค่นั้นเอง” เฉิงให้สัมภาษณ์สื่อ dzwww.com เมื่อ 27 ก.พ. และว่า การมาของบรรดาบล็อกเกอร์และคนจากหลายถิ่น ทำให้ลูกค้าประจำ ลูกค้าเก่าแก่หนีไปหมด
ตอนแรกพี่เฉิงยังไม่ชิน
แต่สัปดาห์ต่อมา เฉิงทำใจยอมรับได้ เพราะเห็นว่าชื่อเสียงนั้นยกระดับความเป็นอยู่ของตนเองและคนในหมู่บ้านได้ โดยให้สัมภาษณ์สื่อฉูเทียน เมโทรโพลิส นิวส์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เปลี่ยนใจและชินกับการเป็นจุดสนใจที่ถูกบล็อกเกอร์รุมล้อมแล้ว
“พวกเขาจะมาไลฟ์สตรีมตอนประมาณ 6-7 โมงเช้า แล้วก็เลิกตอน 4 ทุ่ม ผมเข้าใจพวกเขา พวกเขาชอบผม แล้วก็แค่ทำมาหากินเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่าผมจะมีชื่อเสียงตลอดไป และเรื่องราวของหมู่บ้านหม่าตี้เหอก็จะยืนยาวไปชั่วชีวิต”
Chinese internet bloggers swarmed the village in an attempt to cash in on Cheng’s new found fame. Photo: Baidu
เฉิงกล่าวและว่า หวังให้ชื่อเสียงเป็นประโยชน์กับหมู่บ้าน ช่วยให้เศรษฐกิจของหมู่บ้านดีขึ้น จากที่ไม่มีไฟส่องสว่างบนถนน และไม่มีถนนคอนกรีต ตอนนี้โรงเตี๊ยม ร้านอาหาร และร้านขายของชำ ไปจนถึงแผงลอย ขนมท้องถิ่น ก็ผุดขึ้นรอบบ้านของเฉิง
หญิงแซ่ซุย เป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจได้จากชื่อเสียงของเฉิง ด้วยการขับรถรับจ้างนำนักท่องเที่ยวเข้าไปยังหมู่บ้านแห่งนี้ หญิงคนนี้เผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนขับพาคนเข้าหมู่บ้านแล้วราว 4,000-5,000 คน ทำงานตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม
พี่เฉิงยิ้มสู้ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง
ส่วน หลี่ เว่ยหมิง เจ้าหน้าที่หมู่บ้าน เผยว่า ตนเองและเพื่อนร่วมงาน 5 คน อาสาสมัครอีก 30 คน ต้องตั้งทีมรับบล็อกเกอร์และแฟนคลับของเฉิง มาตลอดสองสัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดความโกลาหล และจัดรถพาคนจากบ้านเฉิงไปตลาดให้เป็นระบบ
“ผมเสร็จงานตอน 5 ทุ่มทุกวัน พวกเราต่างก็ดีใจที่หมู่บ้านของเรามีโอกาสพัฒนาแบบนี้” เจ้าหน้าที่หลี่ กล่าว
ถึงวันนี้หมู่บ้านขยายถนน และสร้างที่จอดรถชั่วคราว 6 จุด ส่วนบริษัทการสื่อสารเข้าไปขยายสัญญาณให้ หลังบล็อกเกอร์ร้องเรียนว่าสัญญาณเน็ตช้าไป
/////
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
