ศาลสูงสุดสหรัฐ – วันที่ 22 มี.ค. ซีเอ็นเอ็น และ เดลีเมล รายงานว่า ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาตกลงที่จะพิจารณาคำอุทธรณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในการคืนคำพิพากษาประหารชีวิตของ นายโจฮาร์ ซาร์นาเยฟ อายุ 27 ปี ผู้ถูกตัดสินมีความผิดในเหตุระเบิดบอสตันมาราธอนเมื่อปี 2556 คร่าชีวิตผู้ชมกิจกรรม 3 ราย ตำรวจอีก 1 นาย และผู้บาดเจ็บมากกว่า 260 คน

นายโจฮาร์ ซาร์นาเยฟ และนายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ

หลังจากที่เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางมีความเห็นที่จะลบล้างโทษประหารชีวิตนายซาร์นาเยฟ และให้นายซาร์นาเยฟรับโทษจำคุกตลอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่เป็น “การกระทำโหดเหี้ยมเกินบรรยาย” และควรได้รับการพิจารณาขั้นตอนการลงโทษใหม่ (new penalty-phase trial) โดยอ้างปัญหา การคัดเลือกคณะลูกขุน และ ความล้มเหลวในการคัดกรองลูกขุนในส่วนของอคติที่อาจเกิดขึ้นหลังการรายงานข่าวของสื่อ

ศาลสูงสุดสหรัฐจะพิจารณาคดีดังกล่าวในปลายปีนี้ และยังไม่รู้ว่ารัฐบาลสหรัฐของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะมีแนวทางอย่างไร เนื่องจากการฟ้องร้องเบื้องต้นและการตัดสินใจขอประหารชีวิตในดีดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลของ อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนายไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีในเวลานั้น แต่ประธานาธิบดีไบเดนให้คำมั่นที่จะหาทางยุติโทษประหารชีวิตของรัฐบาลกลาง

ทั้งนี้ นายซาร์นาเยฟ ในเวลานั้น อายุ 19 ปี ร่วมมือกับ นายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ อายุ 26 ปี พี่ชายนายโจฮาร์ จุดระเบิดหม้ออัดแรงดัน 2 ลูก ใกล้เส้นชัยของการแข่งขันบอสตันมาราธอนเมื่อปี 2556 ทำให้ คริสเทิล แคมป์เบลล์ มาร์ติน ริชาร์ด และ ลู่ หลิงจือ เสียชีวิตในงานการแข่งขันมาราธอน นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย คือ ฌอน คอลเลียร์

นายซาร์นาเยฟถูกตัดสินโทษในความผิด 30 ข้อหา รวมถึงสมคบคิดและใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงก่อการร้ายในปี 2556 และถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2558 ขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำกลางที่เมืองฟลอเรนซ์ รัฐโคโลราโด ส่วนนายทาเมอร์ลันเสียชีวิตหลังยิงต่อสู้กับตำรวจและถูกน้องชายขับรถทับขณะหลบหนี

ทนายความจำเลยโต้แย้งว่า นายซาร์นาเยฟไม่ได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม เนื่องจากผู้พิพากษาจำกัดความสามารถในการสอบสวนคณะลูกขุนว่า การรายงานข่าวของสื่ออาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกลางของคณะลูกขุนอย่างไร

นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า ผู้พิพากษาละเว้นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนายทาเมอร์ลันอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งฝ่ายจำเลยอธิบายว่าเป็นผู้บงการเบื้องหลังการโจมตีบอสตันมาราธอน

รูปวาดของนายซาร์นาเยฟในห้องการพิจารณาคดี

ต่อมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐในรัฐบาล อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นคำอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดเพื่อขอคืนคำพิพากษาประหารชีวิตนายซาร์นาเยฟในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดย นายวิลเลียม บาร์ อัยการสูงสุดสหรัฐ ในเวลานั้น ให้คำมั่นจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น

คำอุทธรณ์ของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เหตุระเบิดทำให้คนบาดเจ็บสาหัสข้างถนนในสภาพเหมือนเขตการต่อสู้และพังพินาศ เลือดและชิ้นส่วนร่างกายกระจายเกลื่อนทุกหนแห่ง ท่ามกลางลูกกระสุน BB ตะปู เศษโลหะ และเศษแก้ว

นอกจากนี้ อธิบายอย่างเป็นขั้นตอนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุระเบิด และวิจารณ์อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความเห็นของศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินให้นายซาร์นาเยฟพ้นโทษประหารชีวิต ซึ่งรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเป็นหนึ่งในการฟ้องร้องคดีการก่อการร้ายที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และว่าการพิจารณาขั้นตอนการลงโทษใหม่จะบีบให้เหยื่อเหตุระเบิดต้องมาขึ้นศาลครั้งที่สอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ประกาศยกเลิก บอสตัน มาราธอน 2020 ป้องกันโควิด-19ระบาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน