ความโกรธของประชาชน ชาวเมียนมา ที่มีต่อระบบทหารได้ทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลได้เลือกใช้วิธีปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมไปแล้ว 254 คน และถูกควบคุมตัวอีกหลายพันคน

ล่าสุด ด้านฝ่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตย (CRPH) ได้ทำการเปิดเว็บไซต์และตั้งเพจเฟซบุ๊กเพื่อเผยรายชื่อกลุ่มคนกว่า 160 คน ที่เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเผด็จการ โดยส่วนใหญ่เป็นข้อมูลของครอบครัวคณะรัฐมนตรีฝ่ายรัฐบาลของนายพลมิน อ่อง หล่าย

สมาชิกครอบครัวของคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่จะไปตั้งรกรากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร เว็บไซต์ดังกล่าวได้เผยภาพไลฟ์สไตล์ที่สุขสบาย พวกเขาเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเดือนละหลายครั้ง รวมไปถึงภาพของรถยนต์และกระเป๋าราคาแพงอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่ามีลูกชายของนายพลระดับสูงหลายคน ทำงานอยู่ในแวดวงสินค้าขายส่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าด้านสุขภาพ อัญมณี และวงการบันเทิง ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตย (CRPH) ตั้งใจที่จะเปิดโปงและเลิกสนับสนุนสินค้า รวมถึงกดดันองกรค์ระดับใหญ่ระดับประเทศให้คว่ำบาตรระบบเผด็จการ

หนาน หลิน แล อู ลูกสาวของ พลโท เคียว ชวา ลิน ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางของกองทัพเมียนมา เธอเป็นคนแรกที่ถูกฝ่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตย (CRPH) นำข้อมูลมาเปิดโปงข้อมูลในสื่อโซเชียล หนาน หลิน แล อู ได้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว

นักเรียนชาวเมียนมารวมถึงนักเรียนญี่ปุ่นหลายคนได้ทำการยื่นจดหมายถึงรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อขอให้ทางการยกเลิกวีซ่า โดยให้เหตุผลว่า ญี่ปุ่นไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องยอมรับลูกสาวของนายพลที่เกี่ยวข้องกับการสังหารประชาชน และสนับสนุนระบบเผด็จการอีกต่อไป นอกจากนี้นักกิจกรรมในญี่ปุ่นยังได้ทำการติดโปสเตอร์เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยไล่หนาน หลิน แล อู ออกอีกด้วย รวมถึงขอร้องให้นักเรียนทุกคนตัดการติดต่อกับเธอโดยเด็ดขาด

นักเรียนเมียนมาในโตเกียวได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Irrawaddy ว่า “หล่อน (หนาน หลิน แล อู ) เคยบอกกับพวกเราว่า ถ้าพวกเราเป็นห่วงครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่เมียนมา พวกเราก็ต้องหุบปากไว้ ห้ามพูดอะไรเด็ดขาด ฉันก็ยังสงสัยอยู่ว่า หนาน หลิน แล อู ยังมีความเป็นคนอยู่หรือไม่ จริงๆแล้วเธอความรู้สึกละอายบ้างที่มีพ่อเป็นฆาตกร”

“ส่วนตัวแล้วฉันไม่ชอบการที่เราต้องมาลงโทษใครในโซเชียลเลย แต่พวกเขากับมีชีวิตหรูหราและฟุ่มเฟือย ในขณะที่ประชาชนชาวเมียนมาต้องถูกฆ่าตายทุกวันแบบไร้ซึ่งความปราณี พวกเขาจะต้องถูกกดขี่จากพวกเผด็จการ แต่พวกเขาสามารถไปอยู่อย่างสบายในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งมันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย”

 

นอกจากนี้สหภาพนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในเมียนมายังประกาศว่าพวกเขาได้ไล่เหล่าลูกๆหลานๆของนายพลออกจากกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงกลุ่มบรรดาศิษย์เก่าที่ยังประกาศอีกว่าจะไม่ต้อนรับสมาชิกครอบครัวคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเผด็จการ

ที่มา irrawaddy.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน