ทหารผ่านศึก เชื้อสายเอเชีย ถกเสื้อโชว์รอยแผลเป็นร่องรอยจากสงครามกลางที่ประชุม ท่ามกลางกระแสการเหยียดชาวเอเชียที่มีมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา ถาม ‘ผมดูรักชาติมากพอหรือยัง?’

ลี หว่อง วัย 69 ปี ทหารผ่านศึกและสมาชิกคณะกรรมาธิการของเมืองซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้เข้าร่วมการประชุมประจำเมืองเพื่อพูดถึงการแบ่งแยกที่มีต่อคนเชื้อสายเอเชีย และตัดสินใจแสดงบาดแผลที่เกิดจากการเข้าร่วมสงคราม เนื่องจากความรุนแรงจากการเหยียดชาวเอเชียที่เพิ่มมากขึ้น “ผมทนกับการปิดปากเงียบมานาน ด้วยความกลัวที่พูดออกไป กลัวว่าตัวเองจะถูกคุกคามหรือถูกเลือกปฏิบัติมากขึ้น” หว่องกล่าว

สมาชิกคณะกรรมการผู้ดูแลผลประโยชน์เมืองเวสต์เชสเตอร์อยู่ในการประชุมเมื่อคืนวันอังคาร

เขากล่าวต่อว่า “หลายคนตั้งคำถามถึงความรักชาติของผม เพราะผมดูไม่มีความเป็นอเมริกันมากพอ พวกเขาไม่สามารถรับรู้ถึงความรักชาติได้จากรูปลักษณ์ภายนอกของผม เพราะงั้นผมจะแสดงให้เห็นตรงนี้ไปเลยว่า ‘หน้าตาของความรักชาติมันเป็นอย่างไร’ ในระหว่างที่หว่องกำลังพูดนั้นเขาก็เริ่มถอดสูท เน็กไทของเขาออก และเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขา “นี่คือหลักฐาน นี่คือสิ่งยืนยันว่าผมได้เข้ารับราชการในกองทัพสหรัฐฯ ในตอนนี้ผมดูรักชาติมากพอหรือยัง?

เขาพูดพลางแสดงให้เห็นรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณหน้าอกของเขา แผลเป็นร่องรอยจากสงคราม ระหว่างที่เขาเข้ารับราชการในกองทัพสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปี จนกระทั่งครั้งหนึ่งที่เขาได้รับบาดเจ็บที่ฟอร์ตแจ็คสัน ในเซาท์แคโรไลนา ในอดีตหว่องนั้นได้อพยพมาจากประเทศจีน เมื่อ 51 ปีก่อน ตอนที่เขามีอายุ 18 ปี โดยอพยพไปชิคาโก เพื่อศึกษาต่อด้านเภสัช ที่ผ่านมานั้นหว่องเคยถูกทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็น ‘คนเอเชีย’ ในช่วงทศวรรษ 1960 ช่วงก่อนที่เขาจะเข้ารับราชการทหาร ซึ่งคนที่ทำร้ายร่างกายเขาก็ไม่เคยถูกลงโทษเลยแม้แต่น้อย

ในระหว่างการประชุมเขาตัดสินใจที่จะยกเสื้อขึ้นแสดงรอยแผลเป็นจากสมัยที่เขาเป็นทหาร

“ผมตั้งใจที่จะเข้ารับราชการ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นอเมริกันและประชาธิปไตย” หว่องกล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เขาอยากจะเป็นทหาร หว่องกล่าวว่าเขาเห็นได้ถึงการเหยียดเชื้อชาติที่มากขึ้น ในละแวกที่เขาอยู่อาศัย เขาโดนล้อเลียนโดยเด็กชายที่ดึงเปลือกตาของตัวเองลง ซึ่งชาวเอเชียหลายคนในละแวกที่เขาอาศัยอยู่ก็ต้องเผชิญเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่าทุก ๆ ครั้งที่มีคนบอกว่าเขาดูอเมริกันไม่พอ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนทิ่มแทงเข้าที่หัวใจอย่างจัง

การกระทำของเขาต่อที่ประชุมนั้นเกิดขึ้น จากกระแสการเหยียดเชื้อชาติที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะชาวเอเชีย รวมไปถึงเหตุกราดยิงในแอตแลนตา “ในตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรมาทับหน้าอกของผม ผมรู้สึกว่าผมต้องพูดอะไรสักอย่าง” และหลังจากที่เขาได้โชว์รอยแผลเป็นดังกล่าวว่องก็นั่งลงและติดกระดุมเสื้อของเขา “อคติคือความเกลียดชัง” เขาพูดในที่ประชุม “สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อคือ พวกเราล้วนเท่าเทียม คุณไม่ใช่คนที่พิเศษกกว่าคนอื่น และคนอื่นจะไม่พิเศษ แต่ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน และไม่มีใครต้องเผชิญกับการถูกแบ่งแยก”

ที่มา : dailymail

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน