เชอรี แบลร์ วัย 66 ปี จากเมืองเลนโคฟ ประเทศออสเตรเลีย ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์โปเดนโก โปรตุกีสโซที่มีชื่อว่า ‘โจลีน’ วันหนึ่งแบลร์ได้สังเกตว่าโจลีนไม่ได้วิ่งมาหาเธออย่างเคย เธอจึงออกไปตามหามันที่สวนหลังบ้านก่อนจะพบว่ามันกำลังคาบ ‘กระดูก’ ปริศนาที่เธอไม่เคยเห็นชิ้นหนึ่งอยู่ เธอจึงโยนกระดูกชิ้นนั้นออกไปนอกรั้ว และพาโจลีนกลับเข้าไปในบ้าน
จากนั้นแบลร์ก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์แปลก ๆ เธอกลับไปที่สวนหลังบ้านอีกครั้ง และเดินไปดูตรงที่ที่โจลีนเล่นกระดูกปริศนา ก่อนจะพบจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่ในซองจดหมาย เมื่อเธออ่านข้อความข้างในมันก็ทำให้เธอถึงกับตกตะลึง เพราะเนื้อหาข้างในถูกระบุว่า “หมาของคุณถูกวางยา เพราะมันเห่ามากเกินไป โทษทีแต่มันไม่มีทางเลือกอื่น มันคือความผิดของคุณ”
ข้อความดังกล่าวทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก เธอจึงตะโกนบอกให้สามีไปเอากระดูกที่เธอโยนออกไปกลับมา ก่อนจะพาตัวโจลีนไปที่โรงพยาบาลสัตวแพทย์ในเมือง และทำให้มันอ้วกออกมา เพราะเป็นไปได้ที่มันจะกินยาพิษเข้าไปแล้ว
“เห่ามากเกินไป?” แบลร์ได้เล่าว่าเมื่อวันก่อนโจลีนเห่าอยู่ประมาณ 20 นาทีพร้อมกับสุนัขอีกสองตัว พอตกเย็นวันนั้นโจลีนเห่าอีกครั้ง แบลร์กล่าวว่าเธอได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า “หุบปาก!” จากตึกอพาร์ตเมนต์ 60 ยูนิตใกล้กับบ้านของเธอ “มันเห่า แต่เราก็พามันเข้ามาในบ้านแล้ว” แบลร์กล่าว
ทั้งนี้แบลร์ได้โจลีนมาในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาหลังจากที่สุนัขตัวก่อนของเธอนั้นจากไปด้วยโรคมะเร็ง ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานแต่เธอก็ผูกพันกับมันเป็นอย่างมาก และเธอไม่รู้เลยว่าจะหาใครมารับผิดชอบจากการวางยาในครั้งนี้ “มีเพียงคนเดียวที่ฉันมีปัญหาด้วยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ฉันว่าไม่ใช่เขา เพราะเขาเป็นโควิด แต่เขาก็เคยเกลียดสุนัข” แบลร์กล่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ไปหาสัตว์แพทย์ในครั้งแรกนั้น และยังไม่มีผลการตรวจสอบที่ชัดเจนออกมาว่า กระดูกที่พบนั้นถูกวางยาพิษจริงหรือไม่ แต่ในจดหมายก็มีข้อความข่มขู่อย่างชัดเจน ทำให้แบลร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแชตส์วูดที่มาตรวจสอบสวนหลังบ้าน และเพื่อหาหลักฐานไปตรวจหาดีเอ็นเอ ของผู้ก่อเหตุรวมถึงติดต่อไปยังผู้พักอาศัยทุกคนในอพาร์ตเมนต์หลังดังกล่าว เพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
ที่มา : dailymail
