สาวผู้ดีเชื้อสายปากีสถานถูกสังหาร – วันที่ 5 พ.ค. เดลีเมล รายงานชะตากรรมน่าสลดของสาวสัญชาติอังกฤษ เชื้อสายปากีสถาน ที่ถูกยิงและบีบคอเสียชีวิต ในนครลาฮอร์ เมืองหลักของแคว้นปัญจาบ ทางตะวันออกของปากีสถาน หลังบอกญาติเป็นครั้งสุดท้าย ถูกชายสองคนพยายามบังคับให้เธอแต่งงานด้วย
น.ส.ไมรา ซุลฟีการ์ วัย 26 ปี ผู้เคราะห์ร้ายจากเมืองเฟลแธม ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ถูกพบเป็นศพที่บ้านเช่าของเธอในปากีสถาน หลังถูกชายสี่คนบุกรุกเข้าไปในบ้านและห้องนอนของผู้ตาย
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชายสองคนดังกล่าวแข่งขันแย่งชิงเพื่อจะแต่งงานกับน.ส.ซุลฟีการ์ แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธทั้งสองคน ขณะที่ตำรวจปากีสถานระบุว่าฆาตกรรมดังกล่าวอาจเป็นอาชญากรรมพิษรักแรงหึง
อินดีเพนเดนต์ อูร์ดู และ ดาวน์ รายงานว่า นายโมฮัมหมัด นาเซียร์ ลุงของน.ส.ซุลฟีการ์ ซึ่งเดินทางไปเยี่ยมหลานสาวไม่กี่วันก่อน ยื่นเอกสารแจ้งความต่อตำรวจ กล่าวหาว่าชายสองคนอยู่เบื้องหลังฆาตกรรมหลานสาวตัวเอง
นายนาเซียร์ร้องเรียนว่า ชายสองคนเป็นเพื่อนของน.ส.ซุลฟีการ์ คือ นายซาฮีร์ จาดุน และนายซาอัด อาเมียร์ บุตต์ ทั้งสองต่างข่มขู่และล่วงละเมิดฝ่ายหญิงซึ่งเกิดความหวาดกลัวผลกระทบเลวร้ายที่จะตามมาในชีวิต
เอกสารแจ้งความระบุว่า นายนาเซียร์จึงต้องการเจอหน้าชายทั้งสองที่ก่อเรื่องกับหลานสาว ทว่าราวบ่ายสองของวันที่ 3 พ.ค. นายนาเซียร์ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของน.ส.ซุลฟีการ์ในกรุงลอนดอนว่า หลานสาวของลุงถูกยิง
นายนาเซียร์อ้างว่า น.ส.ซุลฟีการ์ถูกเพื่อนสองคนนี้สังหาร และมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 2 คน ที่ไม่ทราบชื่อ ทั้งหมดก่อเหตุเมื่อราวตี 4-5 ของวันที่ 3 พ.ค. หลังวางแผนฆาตกรรมอย่างซับซ้อน ขณะนี้นายนาเซียร์หาทางดำเนินคดีกับชายสองคนดังกล่าว เข้าข่ายตามมาตรา 302 และ 304 แห่งประมวลกฎหมายปากีสถาน คือ ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเจตนาร่วมกันฆาตกรรม ตามลำดับ
ด้านตำรวจปากีสถานที่สอบสวนคดีนี้ระบุว่า น.ส.ซุลฟีการ์นอนจมกองเลือดในห้องตัวเอง และถูกยิงตรงหัวไหล่ ซึ่งจะต้องผ่านการชันสูตรพลิกศพก่อนเพื่อจะได้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดถูกยิงหรือถูกบีบคอกันแน่
นอกจากนี้ ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือใกล้ศพผู้ตาย และกำลังหากล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเพื่อติดตามผู้ต้องสงสัย ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครถูกจับกุม ส่วนเพื่อนของผู้ตายคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ในห้องติดกันชั้นบนของบ้านที่เกิดเหตุให้ปากคำแล้ว แต่เบาะแสดังกล่าวไม่ได้ช่วยในการสอบสวน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า น.ส.ซุลฟีการ์อยู่ครอบครัวที่อังกฤษ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยมิดเดิลเซ็กส์ และนิติศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเวสต์ลอนดอน และทำงานบริษัทกฎหมาย
น.ส.ซุลฟีการ์ตัดสินใจย้ายจากอังกฤษกลับมาปากีสถานเมื่อ 2 เดือนก่อน หลังเดินทางมาร่วมพิธีวิวาห์ของเพื่อนที่ปากีสถาน ส่วนพ่อแม่น.ส.ซุลฟีการ์กำลังเดินทางกลับปากีสถานหลังทราบข่าวร้ายว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สาวขี้หึง หวั่นแฟนหนุ่มนอกใจ ตัดเจ้าโลก ทิ้งลงโถส้วม เหลือไว้ให้ใช้เพียง 1.5 ซม.