อดีตผู้นำมัลดีฟส์ยัง “วิกฤต” – วันที่ 7 พ.ค. เอเอฟพี และรอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าความพยายามลอบวางระเบิดสังหารนายโมฮาเหม็ด นาชีด ประธานรัฐสภาและอดีตประธานาธิบดีมัลดีฟส์ ด้านนอกบ้านพักในกรุงมาเล เมืองหลวง เมื่อค่ำวันที่ 6 พ.ค. จนถูกสะเก็ดระเบิดและถูกนำส่งโรงพยาบาล
ล่าสุด คณะแพทย์โรงพยาบาลเอกชน เอดีเค แถลงเมื่อเย็นตามเวลาท้องถิ่นว่า นายนาชีดเข้ารับการผ่าตัดช่วยชีวิตมากกว่า 16 ชั่วโมง และอยู่ในอาการวิกฤตในไอซียู เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ทรวงอก ท้อง และแขนขา
โรงพยาบาลแถลงก่อนหน้านี้ว่า คณะแพทย์เอาสะเก็ดระเบิดออกจากปอดข้างหนึ่งและจากตับ แต่ยังเหลือสะเก็ดระเบิดอีก 1 ชิ้นในตับ ขณะที่สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวอดีตประธานาธิบดีมัลดีฟส์ระบุว่า นายนาชีดตอบสนองและพูดคุยกับแพทย์เมื่อเข้ารับการรักษา และหวังว่านายนาชีดฟื้นตัวเต็มที่
ตำรวจมัลดีฟส์กล่าวว่า อุปกรณ์ระเบิดดังกล่าวติดกับจักรยายนต์คันหนึ่งที่จอดใกล้รถยนต์นายนาชีด ก่อนถูกจุดชนวนขณะที่นายนาชีดขึ้นรถคันดังกล่าว และว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจงใจก่อการร้าย และขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสที่สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้
นอกจากนี้ บอดี้การ์ดของนายนาชีด 1 คน และพลเมืองสัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาลเช่นกัน
ขณะที่ประธานาธิบดีอิบราฮิม โซลีห์ แถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า ตำรวจออสเตรเลียจะมาช่วยการสอบสวนวันที่ 8 พ.ค. และตำรวจยังขอร้องให้เจ้าหน้าที่สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติด้วย
ประธานาธิบดีโซลีห์กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีระบอบประชาธิปไตยที่เพิ่งหัดเดิน และให้คำมั่นที่ว่าผู้ก่อเหตุจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
แม้จะยังไม่มีใครออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิด แต่เจ้าหน้าที่ใกล้ชิดพรรคประชาธิปไตยมัลดีฟส์ (MDP) ของนายนาชีดสงสัยว่าเป็นผู้เสียประโยชน์ทางการเมืองจากการขับเคลื่อนต่อต้านทุจริตของนายนาชีด
หลังนายนาชีดให้คำมั่นจะสอบสวนการโจรกรรมเงินสดมูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 2,800 ล้านบาท จากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน “ผู้นับถืออิสลามบางคนอาจร่วมมือกับกลุ่มทางการเมืองที่ถูกคุกคามการขับเคลื่อนต่อต้านการทุจริตของนายนาชีด” แหล่งข่าว MDP ระบุ
ทั้งนี้ นายนาชีด วัย 53 ปี เป็นประธานาธิบดีคนแรกของมัลดีฟส์ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ถูกข่มขู่บ่อยครั้งจากกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งที่แทรกซึมเข้ามาในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเผชิญความไม่สงบทางการเมืองและความรุนแรงจากกลุ่มติดอาวุธอิสลาม
เช่น เมื่อปี 2558 อดีตประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน แคล้วคลาดจากการถูกลอบวางระเบิดบนเรือด่วน หรือสปีดโบ๊ต หรือเหตุระเบิดในปี 2560 ที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามโจมตีนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีผู้บาดเจ็บ 12 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อดีตประธานาธิบดีมัลดีฟส์เข้าผ่าตัด ถูกลอบวางบึ้มนอกบ้าน สะเก็ดระเบิดกระเด็นใส่