รัฐบาลอิสราเอล กังวล แม้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฯครบโดส ก็อาจต้านการกลายพันธุ์ซ้อนไม่อยู่ ด้านซีอีโอของไฟเซอร์ฯ ระบุ เชื่อมั่นว่าวัคซีนยังมีประสิทธิภาพในการต้านอยู่
รัฐบาลอิสราเอล แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ในผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ ผู้บริหารระดับสูงของ ไฟเซอร์บิออนเทค เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์บิออนเทค ยังมีประสิทธิภาพต่อ”การกลายพันธุ์ซ้อนสองครั้ง” แต่ยังจำเป็นต้องทำการศึกษาและสำรวจเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ สายพันธุ์ของโควิด-19 ที่เรียกว่า B.1.617 มีการกลายพันธุ์ที่สำคัญ และแตกต่างจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ สายพันธุ์ที่พบนี้ เรียกอีกอย่างว่า “การกลายพันธุ์ซ้อนสองครั้ง” ซึ่งถูกพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย และตรวจพบในประเทศอื่น ๆ เช่นกัน รวมถึง ประเทศสหรัฐอเมริกา
สายพันธุ์ B.1.617 ของไวรัสโควิด-19 เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “การกลายพันธุ์ซ้อนสองครั้ง” ซึ่งได้รับการตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดียเมื่อเดือนตุลาคมปี 2563 โดยสายพันธุ์นี้เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิดหลายสายพันธุ์ ได้แก่ การกลายพันธุ์ของ E484Q และ E484K ซึ่งพบได้ในสายพันธุ์บราซิลและแอฟริกาใต้ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และการกลายพันธุ์ของ L452R ที่ช่วยให้ไวรัสหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งนำมาสู่ การกลายพันธุ์ซ้อนสองครั้ง ที่มีชื่อเรียกว่า B.1.617
ในวันที่ 29 เมษายน 2564 นาย อูกูร์ ซาฮิน ผู้บริหารของบิออนเทค เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจวัคซีนโควิดไฟเซอร์ ยังมีประสิทธิภาพต่อ”การกลายพันธุ์ซ้อนสองครั้ง” และคาดว่าจะมีประสิทธิภาพกับ สายพันธุ์ B.1.617 แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัด จึงจำเป็นต้องทำการศึกษาข้อมูลและสำรวจเพิ่มเติมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน (29 เมษยายน 2564) กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอล รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) จำนวน 41 ราย แต่ที่น่าเป็นกังวลเนื่องจาก ในจำนวนดังกล่าว มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์บิออนเทคครบโดสตจำนวน 4 ราย ที่ได้รับการทดสอบผลโควิดเป็นบวก ซึ่งเป็นการพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (B.1.617) ที่พบครั้งแรกในอินเดีย
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลอิสราเอล แนะนำให้ประชากรทั้งหมดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่จำเป็น พร้อมกับข้อจำกัด ที่กำหนดไม่ให้ ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่พลเมืองอิสราเอลเดินทางเข้าประเทศ