รมว.สหรัฐฯซัดยิว ย้ำยังไม่เห็นหลักฐานโยงฮามาส ปมถล่มตึกสื่อระดับโลก

รมว.สหรัฐฯซัดยิว ย้ำยังไม่เห็นหลักฐานโยงฮามาส ปมถล่มตึกสื่อระดับโลก

รมว.สหรัฐฯซัดยิว – วันที่ 17 พ.ค. เอพีรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่ายังไม่เห็นหลักฐานกรณีที่ทางการอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มตึกสำนักข่าวระดับโลกในฉนวนกาซ่า โดยอ้างว่าถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการกลุ่มฮามาส

การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของรัฐมนตรีสหรัฐ มีขึ้นที่การประชุมที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ท่ามกลางแรงกดดันต่อทางการสหรัฐ ให้แถลงจุดยืนเรียกร้องการเจรจาหยุดยิงในการสงครามความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี

แรงกดดันต่อทางการสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นหลังกองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิดทำลายตึกซึ่งถูกใช้เป็นสำนักงานของสื่อระดับแนวหน้าของโลกอย่างเอพี สำนักข่าวสัญชาติอเมริกัน และอัล-จาซีรา สื่อแถวหน้าในโลกอาหรับ

ทางการอิสราเอล อ้างว่า สาเหตุนั้นมาจากอาคารดังกล่าวถูกกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธปลดปล่อยชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านใช้เป็นฐานสำหรับข่าวกรองทางทหาร โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวยืนยันว่า เป็นเป้าหมายที่มีความชอบธรรม

นายบลิงเคน กล่าวว่า หลังภารกิจโจมตีข้างต้นของอิสราเอล ทางการสหรัฐฯร้องขอหลักฐานที่ทางการอิสราเอลกล่าวอ้างแล้ว โดยตนจะให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปประเมินความถูกต้อง แต่ส่วนตัวแล้วตนยังไม่เห็นว่าอิสราเอลส่งข้อมูลใดๆ มา

ความเคลื่อนไหวของนายบลิงเคน เกิดขึ้นหลังบรรดาคณะทูตานุทูตของหลายชาติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และจากบรรดาชาติอาหรับ ร่วมประชุมฉุกเฉินเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้ยุติการต่อสู้เนื่องจากทำให้พลเรือนเผชิญความสูญเสียอย่างมาก หลังกองทัพอากาศอิสราเอลเปิดฉากทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วงในกาซ่า เพื่อตอบโต้การปล่อยจรวดหลายจากกาซ่าเข้ามาในอิสราเอลของกลุ่มฮามาส

แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงสงวนท่าทีต่อการยกระดับการกดดันทางการอิสราเอลเพื่อให้รับข้อตกลงหยุดยิง แม้จะเผชิญแรงกดดันจากสมาชิกพรรคเดโมเครติก หรือเดโมแครต หลายคนก็ตาม

นายอันโตนีโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า การกลับมาสู้รบกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ (ฮามาส) เป็นการหวนคือสู่วงจรแห่งความตาย ความหายนะ และความทุกขเวทนา รวมทั้งเป็นการผลักไสความหวังของการเจรจาสันติภาพให้ห่างไกลออกไป

นางลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวยืนยันกับ UNSC ว่าทางการสหรัฐอยู่ระหว่างการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผ่านช่องทางทางการทูตเพื่อนำไปสู่การยุติการสู้รบ

รายงานระบุว่า ท่าทีของนางกรีนฟีลด์เกิดขึ้นท่ามกลางการทวีความรุนแรงของการสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาส ก่อให้เกิดแรงกดดันมหาศาลจากประชาคมโลกต่อประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งพยายามเปลี่ยนทิศทางนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ให้ทิ้งระยะห่างจากตะวันออกกลาง ทั้งยังปฏิเสธที่จะวิจารณ์โจมตีทางการอิสราเอลตามที่หลายฝ่ายร้องขอ

นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอล ยังเดินหน้าขัดขวางความพยายามของทางการจีน นอร์เวย์ และตูนีเซีย ซึ่งผลักดันให้ UNSC ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบด้วย

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด กองทัพอากาศอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในฉนวนกาซ่า ส่งผลให้มีอาคารถูกทำลาย 3 แห่ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 196 รายแล้ว แบ่งเป็นฝั่งกาซ่า 188 และอิสราเอล 8 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กเสียชีวิตด้วยทั้งสองฝ่าย แบ่งเป็น 55 รายในกาซ่า และ 1 รายฝั่งอิสราเอล

+++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

อิสราเอลถล่มอีกตึกกาซา นักข่าวต่างชาติช็อก ออฟฟิศพังต่อหน้า

อิสราเอล-ปาเลสไตน์ : กองทัพอิสราเอลถล่มบ้านผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮามาส